ชาวเชียงใหม่แห่รับ “จุรินทร์” เป็นประธานเปิดกิจกรรม “พาณิชย์ เดินหน้าอมก๋อยโมเดล@เชียงใหม่ สินค้าข้าวเหนียว” และทำสัญญาซื้อขายข้าวเหนียวล่วงหน้าในพื้นที่ 5 อำเภอหลัก ประกันราคา 12,000 บาท/ตัน สร้างหลักประกันข้ามปี ร่วม 35,000 ตัน ช่วยชาวนาเชียงใหม่ 11,000 ราย

กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าจัดกิจกรรมเปิดตลาดซื้อขายข้าวเหนียว ช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ ภาคเหนือ โดยเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 ต.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานเปิดกิจกรรม “พาณิชย์เดินหน้าอมก๋อยโมเดล@เชียงใหม่ สินค้าข้าวเหนียว” และเป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนามสัญญาข้อตกลงมาตรฐานของกรมการค้าภายในการซื้อขายข้าวเหนียว ที่ ม.8 ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน โดยการประสานงานของ “ทนายเต้ย” ว่าที่ ร.ท.วิศธร เถาตระกูล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 5 นายวิศิษฎ์ วัชรินทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 6 และ น.ส.จิตพลอย จิตจักรวาลทอง เลขานุการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา จ.เชียงใหม่ โดยมีประชาชน เกษตรกรในพื้นที่มาต้อนรับ รวมทั้งขอถ่ายรูปคู่กับ รมว.พาณิชย์จำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างกันเอง

นายจุรินทร์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯทำงานร่วมกัน ช่วยเหลือเกษตรกรทั่วประเทศในพืชทุกชนิด วันนี้เป็นกรณีข้าวเหนียว เพราะ อ.แม่ริม และอีก 4 อำเภอสำคัญ คือ อ.แม่แตง อ.สันกำแพง อ.ดอยสะเก็ด อ.พร้าว รวม 5 อำเภอ มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียว เป็นแหล่งป้อนข้าวเหนียวให้คนเชียงใหม่และภาคเหนือตอนบนบริโภค มีสมาชิกเกษตรแปลงใหญ่รวมกันถึง 11,000 ราย 7 กลุ่ม วันนี้มาช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาผู้ปลูกข้าวเหนียวโดยเฉพาะ มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์กับอธิบดีกรมการค้าภายในหาผู้รับซื้อรายใหญ่ สร้างหลักประกันให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียว 5 อำเภอ ให้มีหลักประกันว่าถ้าปลูกข้าวเหนียวคุณภาพปีนี้ ความชื้นไม่เกิน 15% จะได้รับหลักประกันเรื่องราคาตามสัญญาที่เซ็นตามมาตรฐานที่กำหนด ซื้อราคาไม่ต่ำกว่าตันละ 12,000 บาท

...

นายจุรินทร์กล่าวว่า อย่างน้อยปีนี้ไม่ต้องเผชิญชะตากรรมตามราคาที่ไม่เสถียรของตลาดโลกและตลาดในประเทศอีก ถ้าสำเร็จจะช่วยดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียวเชียงใหม่ต่อไป ภาคเหนือและทุกภาคของประเทศ พืชเกษตรอื่นด้วยเป็นไปตามพระราชบัญญัติเกษตรพันธสัญญาที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย โดยผู้ซื้อประกอบด้วย 1.หจก.ร่วมทุนรุ่งเรือง (จ.ชัยนาท) 2.หจก.ป.รุ่งเรืองธัญญา (จ.สิงห์บุรี) 3.บจก.ทีบีเอสไรซ์มิลล์ (จ.พิจิตร) 4.บจก.ธนสรรไรซ์ (จ.ชัยนาท) และ 5.บจก.รุ่งเรืองพืชผล 369 (จ.เชียงใหม่) ทั้ง 5 บริษัทนี้เซ็นสัญญาแล้ว ถ้าวันไหนข้าวเหนียวราคาตก 5 บริษัทนี้ต้องรับซื้อตันละ 12,000 บาท เป็นสัญญาที่ตกลงไว้ เกษตรกรต้องปฏิบัติตามสัญญา กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ มอบหลักประกันที่ชัดเจนแน่นอนให้กับเกษตรกร วันนี้เซ็นสัญญาทั้งหมด 35,000 ตัน คิดเป็น 30% ของผลผลิตปีนี้ ผลผลิตที่เหลืออีก 70% หรือ 85,000 ตัน จะมีส่วนช่วยให้กับเกษตรกรที่ไม่ได้เซ็นสัญญาได้ด้วยในการดึงราคาขึ้น เป็นวิน-วินโมเดลทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน

“ปีนี้ราคาข้าวจะดีขึ้นเป็นลำดับเพราะการส่งออกข้าวดีมาก ปีที่แล้วส่งออกข้าวได้ 6.2 ล้านตัน ปีนี้ 9 เดือนแรกกำลังเลย 7 ล้านตันแล้ว คาดว่าส่งออกได้ถึง 7-8 ล้านตัน ช่วยให้ราคากระเตื้องขึ้น เพราะข้าวของเกษตรกรสามารถระบายไปต่างประเทศได้” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์กล่าว

ขณะที่ข้อมูลจากกรมการค้าภายในระบุว่า สำหรับเกษตรกร จ.เชียงใหม่ มีการรับเงินในโครงการประกันรายได้เกษตรกรในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนถึง 103,575 ราย วงเงินรวม 1,579 ล้านบาท ได้รับเงินเฉลี่ยรายละ 15,241 บาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในงานมีโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ครั้งที่ 20 มาจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษ เพื่อลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนด้วย