รมว.ยุติธรรม นำทีมแก้หนี้ จ.กำแพงเพชร สาวใหญ่ไม่รู้ตัวเป็นหนี้ เกือบโดนยึดที่ดิน จนมีจดหมายแจ้ง-ไกล่เกลี่ยสำเร็จปิดบัญชี ผัวเมียเฮได้ลดหนี้ 46% พร้อมได้บ้านคืน "สมศักดิ์" ยัน นายกฯ เป็นห่วงประชาชนมาก ให้เร่งช่วยแบ่งเบาภาระ
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 65 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร มีการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 39 และยุติธรรมพบประชาชน จ.กำแพงเพชร โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปรียานุช พรหมภาสิต รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ น.ส.ยุพาภรณ์ ศิริกิจพาณิชย์กูล รองอธิบดีกรมบังคับคดี นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกำแพงเพชร นายปริญญา ฤกษ์หร่าย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ นางอัญชลี ภูริวิทย์วัฒนา รองผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และประชาชนร่วมงานจำนวนมาก โดยก่อนเข้างานมีการคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มงวด
...
โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ได้ยกขบวนมาช่วยไกล่เกลี่ยหนี้สินให้ประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านมีความเป็นห่วงมากให้พวกเราเร่งแบ่งเบาภาระประชาชน ซึ่งตนดีใจที่ได้เดินทางมาเป็นประธานในงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน และยุติธรรมพบประชาชนในครั้งนี้ ซึ่งมีเป้าหมายประชาชนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ 3,992 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 371 ล้านบาท โดยงานไกล่เกลี่ยที่ผ่านมาไกล่เกลี่ยสำเร็จ 27,178 ราย ลดค่าใช้จ่ายประชาชนได้ 2,282 ล้านบาท โดยผู้ที่ไม่ได้มางานในวันนี้น่าจะต้องเสียดาย เพราะไม่ได้สิทธิพิเศษในการลดเงินต้น ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับ แต่ยังสามารถไปไกล่เกลี่ยหนี้สินได้เพราะเรามีศูนย์ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องทั่วประเทศ 910 แห่ง ผู้ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง 3,176 คน สำนักงานบังคับคดีช่วยไกล่เกลี่ยหลังฟ้อง 117 แห่ง ที่จะช่วยพวกท่านได้
จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้มอบเงินเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา 470,630 บาท มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน และร่วมการไกล่เกลี่ยด้วยตนเอง โดยรายแรกเป็นลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุข เป็นหนี้ก่อนฟ้อง กยศ.หลังผ่อนมา 16 ปี เหลือหนี้ 141,977 บาท โดยผลการเจรจา กยศ.ลดให้ 38,715 บาท เหลือ 130,262 บาท ให้ผ่อนอีก 190 เดือนงวดละ 590 บาท ซึ่งหากมีเงินมาปิดบัญชีจะได้ส่วนลดอีก 20,000 บาท รายต่อมาเป็นหนี้ กยศ.หลังศาลมีคำพิพากษา เป็นเงินทั้งหมด 13,950 บาท และถูกยึดบ้านและที่ดิน กำลังจะถูกขายทอดตลาด ผลการเจรจา กยศ.ลดให้ 5,255 บาท เหลือ 8,695 บาท โดยหญิงสาวผู้กู้ระบุว่า ตนไม่ทราบมาก่อนว่ามีหนี้อยู่จนมีจดหมายแจ้งเตือนมา ตนขอขอบคุณรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมที่จัดโครงการนี้ขึ้น ไม่เช่นนั้นตนคงถูกยึดบ้านและที่ดินไปแล้ว รายสุดท้ายเป็นหนี้ธนาคารออมสิน ศาลมีคำสั่งยึดบ้าน ที่ดิน และให้ชำระหนี้ 165,000 บาท ซึ่งผลการเจรจาทางธนาคารให้ 2 ทางเลือกคือ 1.ผ่อนเดือนละ 1,500 บาท และ 2.ปิดบัญชีเลยซึ่งจะได้ส่วนลด 46% โดยลูกหนี้ขอปิดบัญชีซึ่งได้ส่วนลด 84,275 บาท เหลือหนี้เพียง 97,400 บาท และงดการยึดทรัพย์.