เชียงใหม่-ก๋วยเตี๋ยว 3 บาท สวนกระแสเศรษฐกิจ ยืนยันไม่ปรับขึ้นราคา ขาย 3 บาทตลอดกาล แม้ต้นทุนวัตถุดิบพุ่งจนฉุดไม่อยู่ เจ้าของบอกอยากตอบแทนลูกค้าที่มาอุดหนุนทางร้านด้วยดีเสมอมา

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านอาหารจำนวนมากที่ทนแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ไหว ทยอยแจ้งปรับราคาอาหารกันมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จนถึงต้นปีนี้ แต่ยังมีอยู่ 1 ร้านที่ยืนยันไม่ปรับราคา เพื่อคงคอนเซปต์ "ก๋วยเตี๋ยว 3 บาท" ที่ราคาถูกที่สุดและมีเพียงแห่งเดียวที่จังหวัดเชียงใหม่

โดยบรรยากาศที่ร้านก๋วยเตี๋ยว 3 บาท มีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการกันอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย กลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการมีหลากหลาย ทั้งกลุ่มครอบครัว คนวัยทำงาน วัยรุ่น โดยทุกโต๊ะจะสั่งก๋วยเตี๋ยวกันคนละไม่ต่ำกว่า 5-10 ชาม หากเป็นข้าวซอย ก็จะสั่งกันคนละ 2 หรือ 3 ชาม

...

หนุ่มเชียงใหม่ลูกค้าประจำร้านก๋วยเตี๋ยว 3 บาท รายหนึ่งบอกว่า มากินที่นี่เพราะราคาถูก แต่ละครั้งจะสั่งมาประมาณ 10 ชาม กินอิ่มท้องแต่จ่ายเงินไปเพียง 30 บาทเท่านั้น ถือว่าคุ้มค่ามากในยุคที่ข้าวของแพง


ด้านนายธวัช ภิระตา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว 3 บาท ยืนยันว่า จะยืนหยัดขายราคาเดิมชามละ 3 บาท และจะขายแบบนี้ตลอดไป แม้ว่าวัตถุดิบจะขึ้นราคาและเราเองก็ได้รับผลกระทบ แต่ยังขายราคาเดิม ปริมาณเท่าใด ซึ่งก็ยอมรับว่า อาจมีกำไรลดลง แต่ได้หาช่องทางรายได้อื่นๆ มาเพิ่ม เช่น หาขนมและของขบเคี้ยวมาขาย โดยพยายามจะประคับประคองร้านก๋วยเตี๋ยว 3 บาทให้อยู่รอดไปให้ได้ เพราะอยากตอบแทนลูกค้าที่มาอุดหนุนทางร้านด้วยดีเสมอมา

ส่วนช่วงนี้จำนวนลูกค้าไม่ได้ลดลง ยังเท่าเดิมและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวมาอุดหนุนกันจำนวนมากจนให้บริการแทบไม่ทัน


สำหรับวัตถุดิบที่ขึ้นราคาตอนนี้ เช่นหมูบด จากราคา 110 บาทต่อกิโลกรัม ก็เพิ่มเป็น 185 บาท ส่วนผักสดก็ผันผวนตามกลไกตลาดปรับขึ้นลงตลอด และก๊าซหุงต้มที่ใช้เฉลี่ย 2 วันประมาณ 3 ถัง จากปกติจ่ายครั้งละ 1,050 บาท ก็เพิ่มเป็น 1,140 บาท