สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก มอบเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกให้กับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด ตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/2565 รวม 66 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 428,350 บาท

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มี.ค. ที่ตลาดสินค้าเกษตร สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด นายนรสีห์ สุดวิลัย สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานมอบเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกให้กับสมาชิก โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/2565 และเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/2565 ระหว่าง นายเกรียงศักดิ์ รสดี ประธานสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด กับ นายสะท้าน วรรณา ผอ.สนง.ธ.ก.ส. จ.พิษณุโลก รวมทั้งมอบร่วมมอบเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกฯ และกิจกรรมส่งเสริมซุปเปอร์มาร์เก็ตของสหกรณ์ให้กับสมาชิกสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการฯ ด้วย

นายนรสีห์ สุดวิลัย สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดสนับสนุนให้สหกรณ์เข้าร่วมโครงการนี้กับ ธ.ก.ส. และกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับสนุนอุปกรณ์การตลาด เช่นเครื่องอบ โกดัง ไซโลหล่อเย็น ให้กับสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด เพื่อรวบรวมผลผลิตเข้าร่วมโครงการจำนวน 3,000 ตัน โดยใช้งบประมาณกว่า 40 ล้านบาท การจัดกิจกรรมในวันนี้เพื่อแสดงให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกได้เห็นว่า พอเข้าร่วมโครงการแล้วจะเกิดประโยชน์ต่อตนเอง และให้เกษตรกรเห็นว่าได้รับผลประโยชน์ตามนโยบายของรัฐบาลจริง ในอนาคตจะได้มีเกษตรกรสมัครเป็นสมาชิกของสหกรณ์เพิ่มขึ้นด้วย

...

ด้าน นางปิยาพัชร สุจรรยา ผจก. สกก.พรหมพิราม จำกัด กล่าวว่า กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาราคาข้าวเปลือกให้มีเสถียรภาพ โดยเก็บข้าวเปลือกในยุ้งฉาง ไม่ให้ออกสู่ตลาดพร้อมกันจำนวนมาก และช่วยเหลือด้านการเงินให้แก่เกษตรกรระหว่างรอการขายผลผลิต และต้องการให้สมาชิกของสหกรณ์ได้เกิดความรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมกับโครงการ วันนี้มีสมาชิกมารับเงินจำนวน 66 ราย น้ำหนักข้าวสด 992,061 กิโลกรัม ยุบตัวเป็นข้าวแห้ง 135,361 กิโลกรัม ข้าวแห้งคงเหลือ 856,700 กิโลกรัม โดยสหกรณ์ฯ ได้ขอเบิกเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือกตันละ 500 บาท คืนให้แก่สมาชิก เป็นเงินทั้งสิ้น 428,350 บาท ในส่วนของสหกรณ์ฯ ก็จะได้เงินตันละ 500 บาทเช่นกัน

นายสะท้าน วรรณา ผอ.สนง.ธกส.จ.พิษณุโลก กล่าวว่า เนื่องจากว่าเกษตรกรที่ปลูกข้าว ปัจจุบันไม่มียุ้งฉางในการเก็บข้าว ผลผลิตที่ออกมาก็พร้อมกัน ซึ่งจะมีปัญหาในเรื่องของราคา ทางรัฐบาลจึงได้มีนโยบายให้พี่น้องเกษตรกรสามารถข้าวที่ยังไม่ต้องการขายก็ให้นำมาฝากกับสถาบันเกษตรกร โดยเฉพาะที่สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม โดยกำหนดไว้ว่าเมื่อนำมาฝากไว้ ก็จะได้ค่าฝากอีกด้วย จึงขอเน้นย้ำพี่น้องเกษตรกรที่ปลูกข้าว ซึ่งหากลงมือในการปลูกข้าว สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ปลูกข้าว สิ่งนี้จะต้องทำและละเลยไม่ได้ แม้กระทั่งปลูกพืชอะไรก็ต้องไปขึ้นทะเบียนไว้ เพื่อรัฐจะได้เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป