กรมส่งเสริมสหกรณ์ เผยกาแฟดอยสะเก็ด ผลผลิตของสหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา จ.เชียงใหม่ เข้าตา JICA เกิดเป็นความร่วมมือส่งเสริมสนับสนุนต่อยอด พัฒนาสหกรณ์ให้มีศักยภาพผลิตกาแฟคุณภาพดี ตั้งแต่ผลิต แปรรูป ดึงอัตลักษณ์โดดเด่น ทำตลาดเอาใจคอกาแฟ

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการทำงานสหกรณ์การเกษตรดอยสะเก็ดพัฒนา จำกัด พบว่า สหกรณ์มีธุรกิจรวบรวมและแปรรูปกาแฟอาราบิก้าของสมาชิก จำหน่ายภายใต้แบรนด์ “กาแฟดอยสะเก็ด” ถือเป็นอีกหนึ่งสหกรณ์ที่มีศักยภาพในการทำธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ แม้ในบางปีอาจมีปัญหาราคากาแฟตกต่ำ แต่ด้วยกระแสความนิยมบริโภคกาแฟที่เพิ่มขึ้นในยุคปัจจุบัน ประกอบกับความพยายามของสหกรณ์ในการพัฒนาธุรกิจ กรมฯจึงได้สนับสนุนอุปกรณ์การผลิตเพื่อยกระดับให้สหกรณ์มีศักยภาพในการผลิตกาแฟพรีเมียมหรือกาแฟคุณภาพสูง สำหรับขยายตลาดและช่วยเหลือสมาชิกที่ปลูกกาแฟในพื้นที่ดอยสะเก็ด และขยายโอกาสทางตลาดให้มากขึ้น



นอกจากนั้น กรมฯยังได้รับการสนับสนุนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟจากญี่ปุ่นมาปฏิบัติงานในพื้นที่ เก็บข้อมูลและพัฒนาคุณภาพกาแฟ คอยให้คำแนะนำตั้งแต่การปลูก เก็บเกี่ยว และแปรรูป ระยะเวลา 3 ปี ระหว่างปี 2563-2565 เพื่อช่วยกันพัฒนาระบบการผลิตและขบวนการพัฒนาต่อยอดให้เป็นกาแฟพรีเมียมออกสู่ตลาดในประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะดึงอัตลักษณ์และลักษณะพิเศษของกาแฟที่นี่ออกมานำเสนอ และสร้างความต่างจากกาแฟทั่วไป โดยกรมฯพร้อมสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในปีที่ผ่านมาได้มอบเงินอุดหนุนเพื่อจัดซื้อเครื่องกะเทาะเปลือกผลสดกาแฟเชอรี่และเครื่องคั่วกาแฟ เพื่อให้สหกรณ์นำไปใช้ในการต่อยอดธุรกิจจำหน่ายกาแฟต่อไป

...

นายประหยัด เสนน้อย ผู้จัดการสหกรณ์ฯ กล่าวว่า ปัจจุบันสหกรณ์มีสมาชิก 2,962 คน ทุนดำเนินงาน 215 ล้านบาท รับซื้อกาแฟกะลา และกาแฟเชอรี่จากสมาชิก นำมาแปรรูปผลผลิตเป็นกาแฟสาร กาแฟคั่วเมล็ด และกาแฟคั่วบด พื้นที่ดอยสะเก็ดมีสมาชิกปลูกกาแฟราว 7,400 ไร่ ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 900-1,500 ม. ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ JICA ได้เข้ามาช่วยแนะนำเก็บฐานข้อมูล ตรวจสอบคุณภาพและความสุกของกาแฟก่อนเก็บเกี่ยว โดยปีแรกพบปัญหาระบบรากคดงอ ทำให้เจริญเติบโตไม่ดี จึงวางแผนปรับปรุงและคัดเลือกเกษตรกรนำร่อง 37 รายเป็นเป้าหมายพัฒนาเบื้องต้น มีการลงพื้นที่เพื่อให้คำแนะนำ

จากการทดสอบรสชาติกาแฟของสมาชิกที่นำร่อง 37 ราย พบว่ามี 7 ราย มีคะแนน สูงกว่า 80 คะแนน และกาแฟที่ได้มีกลิ่นรสที่พิเศษ เช่น กลิ่นดอกไม้ป่า มะกรูด ซีตรัส กลิ่นข้าวหอม พีช ชาดำ เป็นต้น กลุ่มนี้จะสนับสนุนให้พัฒนากาแฟ Single Origin และการพัฒนาระบบการตรวจสอบย้อนกลับ และจะถอดรูปแบบการผลิตมาเป็น Best Practice กาแฟของสหกรณ์ ขณะนี้สหกรณ์ฯได้เริ่มทดลองทำตลาด ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก ทั้งนี้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่กำหนดจัดอบรมหลักสูตร : การพัฒนามาตรฐาน “ระบบตามสอบสินค้าเกษตร” QR Trace on Cloud ร่วมกับ มกอช. ในเดือนมิถุนายน 2564 ด้วย

Mr. Masahiro Okada ผู้เชี่ยวชาญจาก JICA กล่าวว่า ภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น JTEPA ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ร่วมกับไจก้า ดำเนินงานโครงการความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงท้องถิ่นสู่ท้องถิ่น (Local to Local Linkage) การเลือกสหกรณ์ฯดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เป็นเป้าหมาย เนื่องจากเป็นพื้นที่เดียวในภาคเหนือที่เกษตรกรและสหกรณ์ทำด้วยตัวเองตลอดสายการผลิต ซึ่งความร่วมมือของสองประเทศก็เพื่อพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรและสหกรณ์ในการผลิตกาแฟคุณภาพดี

นายเสถียร คำหล้า เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟแบบ Single Origin กล่าวว่า ตนเองปลูกกาแฟมา 7 ปี ในพื้นที่ 11 ไร่ ประมาณ 4 พันต้น ไร่ละประมาณ 400 ต้น ปลูกปีละ 2 พันต้น ทยอยปลูกให้ผลผลิตส่งสหกรณ์ 900 กก.ส่งสหกรณ์ทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้าสหกรณ์ให้นักชิมกาแฟมาชิม ผลออกมาได้คะแนน 82.75 ปัจจุบันมีรายได้จากการปลูกกาแฟส่งขายสหกรณ์ปีละแสนกว่าบาท คอกาแฟอยากทดลองชิมรสชาติกาแฟของสหกรณ์ดอยสะเก็ดพัฒนา จำกัด ติดตามได้ผ่าน Facebook : ดอยสะเก็ดคอฟฟี่กรีน – Doisaketcoffeegreen หรือโทร.06-5358-9585.