ปลิดชีวิตสลดหนีคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โพสต์หลอกขายป้ายทะเบียนเลขสวย หนุ่มพะเยา พร้อมเมียสาว 3 ชีวิตใช้ความตายยุติปัญหา ลั่นไก 9 มม. เจาะกะโหลกเมียแล้วระเบิดขมับตายเคียงข้างบนเตียง หลังตำรวจปิดล้อมเพื่อจับกุมนานข้ามวันข้ามคืน ผบช.ภ.5 เผยฝ่ายชายประกาศกับญาติยอมตายไม่ยอมถูกจับ ขณะที่เมียสาวบอกกับญาติจะอยู่ด้วยกันจนเกิดเหตุสลด ยืนยันไม่มีการจับเมียเป็นตัวประกัน ตำรวจต้องให้เวลาญาติเจรจาไม่ไปกดดัน ส่วนญาติผู้ตายไม่ติดใจเหตุที่เกิดขึ้น
จากเหตุการณ์ตำรวจ ภ.จ.เชียงใหม่ ร่วมกับตำรวจ บก.สส.ภ.5 ปิดล้อมห้องเลขที่ 310 ชั้น 3 ฮิมมาคอนโดมิเนียม ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อจับกุมนายสุเมธ ครองวงศ์ อายุ 25 ปี กับ น.ส.อาณดา ปิยะรักษ์ อายุ 18 ปี ภรรยา ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เปิดเว็บไซต์หลอกขายป้ายทะเบียนเลขสวย พอเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ก็ปิดเว็บเชิดเงินหนี มีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายรายมูลค่าความเสียหายนับสิบล้านบาท แต่ว่านายสุเมธไม่ให้ตำรวจเข้าห้อง ขู่จะฆ่าให้ตายทั้งหมด 4 ชีวิต ตำรวจเชิญแม่ของนายสุเมธช่วยเกลี้ยกล่อมจึงยอมให้ลูกสาววัย 3 ขวบออกจากห้อง เหลือเพียงผู้ต้องหา 2 คน กับ น.ส.วิชชุดา เสียมศักดิ์ อายุ 22 ปี ภรรยาอีกคน กระทั่งช่วงบ่ายแม่กับพี่ชายของนายสุเมธพยายามเกลี้ยกล่อมอีกรอบมีเสียงปืนดังสนั่นห้อง 4 นัด ก่อนทุกอย่างจะเงียบไป แต่ตำรวจ ยังไม่กล้าเข้าไปตรวจในห้อง ได้แต่แฝงตัวอยู่ห้องข้างเคียงจับตาความเคลื่อนไหว รอให้ญาติฝ่ายหญิงมาช่วยเจรจาอีกครั้งหวังให้ผู้ต้องหายอมจำนนโดยดี
ในที่สุดการปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหาเพื่อนำตัวไปดำเนินคดีต้องเป็นหมันเมื่อผู้ต้องหาตัดสินใจยิงตัวตายพร้อมกัน 3 ศพ โดยเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 6 มี.ค. พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ร่วมประชุมกับ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก พร้อมตำรวจ บก.สส.ภ.5 และชุดสืบสวน ภ.จ.เชียงใหม่ เพื่อสรุปสถานการณ์ปิดล้อมจับตาความเคลื่อนไหวตลอดทั้งคืน และวางแผนปฏิบัติการขั้นต่อไป โดยมีรายงานว่าช่วงตีสอง ตำรวจได้ใช้โดรนบินตรวจจับความร้อนภายในห้องที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถจับความร้อนใดๆ ภายในห้องได้ ส่อเค้าอาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน ขณะเดียวกันแม่และญาติของฝ่ายหญิงมาถึงที่เกิดเหตุ ตำรวจเชิญเข้าไปร่วมฟังการประชุมด้วย
...
กระทั่งเวลา 09.30 น. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส. และ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ก่อนบุกเข้าตรวจค้น โดยให้แม่และญาติฝ่ายหญิงตะโกนเรียก แต่ไม่มีเสียงขานรับ ตำรวจใช้ค้อนปอนด์ทุบทำลายประตูเข้าไปในห้องที่เกิดเหตุ เป็นห้องชุดมี 1 ห้องโถง 2 ห้องนอน ในห้องนอนใหญ่พบภาพสลดใจทั้งสามคนนอนตายเคียงข้างกันอยู่บนเตียงนอน โดย น.ส.วิชชุดา เสียมศักดิ์ นอนตะแคงอยู่ริมขวาของเตียง ถูกยิงด้วยปืน 9 มม. เข้าขมับขวา 1 นัด น.ส.อาณดา ปิยะรักษ์ นอนคว่ำหน้าอยู่ตรงกลาง ถูกยิงเข้าขมับซ้ายทะลุกกหูขวา 1 นัด ส่วนนายสุเมธนอนหงายอยู่ริมซ้าย มีแผลจ่อยิงเข้าขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด ทั้งสามคนตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง ส่งศพไปชันสูตรที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่
ในที่เกิดเหตุมีปืน 9 มม. ตกข้างศพนายสุเมธ 1 กระบอก เก็บปลอกกระสุนปืนได้ 5 ปลอก กระจกหน้าต่างถูกกระสุนปืนแตก 1 บาน และมีจดหมายลาตายที่นายสุเมธเขียนถึงแม่และน้องชายฝากฝังให้ช่วยดูแลลูกสาว 2 คนของนายสุเมธกับ น.ส.วิชชุดาด้วย เก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนรถของผู้ตายจอดอยู่ที่ลานจอดรถคอนโดมิเนียมดังกล่าว คือรถเบนซ์ซี 300 สีขาว ทะเบียน 3 กญ 35 กรุงเทพมหานคร และรถบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 7 สีขาว ทะเบียน วพ 606 กรุงเทพมหานคร ตำรวจได้อายัดไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงิน
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า ผู้ที่อยู่ภายในห้องเสียชีวิตทั้ง 3 คน นายสุเมธ เป็นชาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา คาดว่าเป็นผู้ตายใช้ปืนยิงภรรยาทั้ง 2 คน คือ น.ส.วิชชุดากับ น.ส.อาณดา แล้วยิงตัวตาย น่าจะเสียชีวิตหลังจากเกิดเสียงปืนดังขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ จากการสอบถามจากทางญาติฝ่ายชาย ทราบว่านายสุเมธยืนยันว่าหากจะโดนจับก็ขอยอมตายดีกว่า ส่วน น.ส.อาณดาและ น.ส.วิชชุดาก็บอกกับญาติว่าจะอยู่ด้วยกันกับฝ่ายชาย ไม่มีการจับเป็นตัวประกัน หลังจากมีเสียงปืนดังตำรวจยังไม่เข้าไปช่วยเหลือเพราะไม่ใช่ตัวประกัน เราไม่รู้ว่าเขายิงใครอาจแค่ยิงขู่ก็ได้ ต้องให้เวลาญาติเกลี้ยกล่อม ตำรวจจะไม่กดดัน ซึ่งญาติของผู้ตายก็ไม่ได้ติดใจอะไร สำหรับนายสุเมธกับ น.ส.อาณดาเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของ สน.คลองตัน ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และการฟอกเงิน
จากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนพบว่า นายสุเมธกระทำความผิดโพสต์ขายป้ายทะเบียนเลขสวยผ่านโซเชียลมีเดียมาตั้งแต่ปี 2557 จนมีฐานะร่ำรวย หลังรู้ตัวว่าถูกออกหมายจับพาภรรยาทั้งสองคน และลูกสาวคนเล็กหนีออกจากกรุงเทพฯ มาเช่าคอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุกบดานอยู่ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.พ. กระทั่งชุดสืบสวน ภ.5 และ สภ.ช้างเผือก ได้รับการประสานงานจากตำรวจ สน.คลองตัน เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ผู้ตายไม่ยอมให้จับ กลับขังตัวอยู่ในห้องพัก กระทั่งเกิดเหตุสลดใจดังกล่าว