เคลียร์เหตุยิง 3 ศพผู้ต้องหาหนีหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชนคาคอนโดเชียงใหม่ น้องชายวอนสื่อให้ความเป็นธรรมพี่ชาย ไม่ได้จับใครเป็นตัวประกัน แต่ร่วมใจยอมตายดีกว่าถูกจับ พยายามกล่อมแล้วไม่สำเร็จ
จากเหตุการณ์ที่นายสุเมธ ครองวงศ์ หรือ เมท อายุ 25 ปี หมู่บ้านคุ้ม บ้านเลขที่ 147 หมู่ 6 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ใช้อาวุธปืนยิงพี่เลี้ยงเด็กและเมียตัวเอง หลังจากนั้นได้ยิงตัวตายตามในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ที่คอนโดแห่งหนึ่งตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น วันที่ 5 มีนาคม 2564
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ไปยังบ้านนายสุเมธ ครองวงศ์ หรือ เมท อายุ 25 ปี ในพื้นที่ ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา แต่บ้านหลังดังกล่าวได้ปิดเงียบไม่มีใครอยู่ สอบถามจากเพื่อนบ้านทราบว่า บ้านหลังนี้เป็นของยายนายสุเมธ จากนั้นเพื่อนบ้านคนดังกล่าวได้ยื่นโทรศัพท์ให้กับผู้สื่อข่าว บอกว่ามีคนอยากคุยด้วย
ผู้ที่อยู่ปลายสายชื่อ นายเอ็ม (นามสมมติ) อ้างว่าเป็นน้องชายของนายสุเมธ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกไม่สบายใจที่มีการพาดข่าวว่า พี่ชายตนเองจับภรรยาและพี่เลี้ยงเด็กเป็นตัวประกัน ซึ่งแท้จริงแล้วทั้งสามคนยินยอมตายดีกว่าให้โดนจับ โดยพี่ชายของตนได้แชตทางไลน์ส่วนตัว มาบอกว่าจะไม่ขอถูกจับ ทั้งนี้ได้ตกลงปลงใจที่จะปลิดชีวิตตนเองพร้อมกันทั้ง 3 คน เพราะว่าการกระทำในครั้งนี้ทั้ง 3 ได้ลงมือกระทำร่วมกัน เงินได้ผ่านบัญชีธนาคารของทั้ง 3 คน ทั้งหมดรู้แล้วว่าทั้งหมดจะถูกจับ
น้องชายของผู้ต้องหา กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 64 พี่ชายตนเองยอมปล่อยลูกสาวออกมาให้ตนเองมารับที่หน้าประตูห้อง และบอกว่าทั้ง 3 คนจะขออยู่ด้วยกันให้นานที่สุด และพี่ชายของตนได้ย้ำถามกับภรรยาและพี่เลี้ยงเด็กอีกครั้งว่าจะออกไปให้ตำรวจจับหรือไม่ แต่ได้รับคำตอบทั้งน้ำตาของหญิงทั้งสองคนว่า ไม่ยอมให้ถูกจับ จะขอยอมตายไปพร้อมกัน หากว่าตำรวจกดดันมากกว่านี้เราทั้งหมดขอยอมตาย โดยทั้งที่ได้เกลี้ยกล่อมให้มอบตัวไปหลายรอบแล้วแต่ไม่เป็นผล ตนจึงอุ้มหลานสาวออกจากพื้นที่ด้วยความเศร้าสลด
...
"ต่อมาเมื่อเวลา 15.40 น. แม่นายสุเมธ พยายามเจรจาเข้าห้อง มีเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด ทะลุกระจกห้องนอน 1 นัด เหตุการณ์ครั้งนี้ พี่ชายตนเองไม่ได้ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ เพียงแต่ยิงพลาดไปเท่านั้น เพราะตนเองนั้นก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย วอนสื่อให้นำเสนอข่าวตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง และให้ความยุติธรรมกับพี่ชายตนเองด้วย" นายเอ็ม กล่าว
เมื่อถามถึงอาชีพการทำงานของพี่ชายว่ามีอาชีพอะไร น้องชายผู้ตาย กล่าวว่า พี่ชายไม่เคยบอกเรื่องเกี่ยวกับตนเองว่าทำงานอะไรที่ไหน เพราะพี่ชายเป็นคนที่ชอบเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ชอบยุ่งหรือสุงสิงกับใคร ในแต่ละปี พี่ชายก็จะมาเที่ยวที่บ้านเกิดเพียงปีละครั้งเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ที่ผ่านมาครอบครัวตนเองก็เจ็บช้ำมากเกินพอแล้ว และมีอะไรก็ให้สอบถามกับตนเองโดยตรง ขณะนี้ตนเองก็ยังอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ อยู่ ส่วนร่างของผู้ตายทั้ง 3 ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่ไหน เพราะตนเองเครียดกับเหตุการณ์นี้ หลังจากนี้ก็จะดำเนินการอีกที.