โจรโหดบุกฆ่ายกครัว 3 ศพในบ้านสวนลำไย อ.เชียงดาว ก่อนชิงทรัพย์สิน ทองรูปพรรณของผู้ตาย ตำรวจคาดว่าคนร้ายรายนี้น่าจะรู้จักผู้ตายทั้ง 3 เป็นอย่างดี เพราะรู้ที่ซ่อนเงินทอง หลังพบเพิ่งขายพืชไร่มาได้เงินจำนวนมาก จึงน่าจะมุ่งไปที่ทรัพย์ผู้ตาย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ต.ค.62 ร.ต.อ.ฤกษ์ชัย สารจันทร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุมีเหตุฆ่ากันตายที่ภายในบ้านไม่มีเลขที่ ในสวนลำไย ม.4 ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.สภ.เชียงดาว, พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ คำบุญมา รอง ผกก.(สอบสวน), พ.ต.ท.ตระกูล ทาคำ รอง ผกก.(สืบสวน) สภ.เชียงดาว พร้อมแพทย์เวร รพ.เชียงดาว และกู้ภัยเชียงดาว พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่เดินทางไปยังที่เกิดเหตุเป็นหมู่บ้านบนดอยสูง
เมื่อไปถึงพบว่ามีชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ภายในบ้านพบศพผู้หญิงจำนวน 2 ศพ ชาย 1 ศพ โดยนอนในห้องนอน 2 ศพและอีกห้อง 1 ศพโดยภายในห้องนอนศพชายสภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ทราบชื่อภายหลังนายจันต๊ะ ไม่มีนามสกุล ชาวไทใหญ่อายุ 40 ปี ที่อยู่ 14/ช หมู่ 13 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
จากการตรวจสอบ พบมีบาดแผลถูกแทงบริเวณร่างกายหลายแห่ง และถูกฟันศีรษะด้านหลังเป็นแผลฉกรรจ์ และพบศพเพศหญิงนางอ่อน นางใสอายุ 55 ปี ชาวไทใหญ่ สภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืด สีชมพู สวมผ้าถุง มีบาดแผลบริเวณศีรษะด้านหลังและใบหน้า และอีกห้องพบศพ น.ส.คำ ไม่มีนามสกุล อายุ 28 ปี ที่อยู่ 4 หมู่ที่ 4 ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ชาวไทใหญ่ สภาพนอนตะแคง สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีส้ม มีบาดแผลบริเวณศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ 1 แผล
...
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบพยานหลายปากทราบว่า นายจันต๊ะ เพิ่งขายเมล็ดงาดำได้เงินมาจำนวนนับหมื่นบาทกลับมาบ้าน ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นคนที่รู้จักกัน จึงเข้ามากลางดึกของคืนวันที่ 21 ต.ค.ใช้อาวุธมีดปลายแหลมและมีดอีโต้ เข้าก่อเหตุบุกฆ่าคนทั้งสามทั้งแทงทั้งฟันจนถึงแก่ความตาย จากนั้นได้รื้อค้นเอาเงินและของมีค่าหลบหนีไป
พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ไปดูที่เกิดเหตุและได้เรียกประชุมชุดสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่และชุดสืบสวน สภ.เชียงดาว โดยประเด็นที่ตั้งไว้มีชิงทรัพย์และมีปัญหาขัดแย้งกันในเรื่องส่วนตัว ซึ่งจะได้แบ่งชุดตำรวจสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดีโดยเร็ว
ด้าน พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผบช.ภ.5 ได้เดินทางลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับเรียกประชุมทีมสอบสวนสืบสวน เพื่อเร่งคลี่คลายในคดีนี้ เบื้องต้นตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็นคือฆ่าชิงทรัพย์และอาฆาตแค้นส่วนตัว ขณะเกิดเหตุไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์เนื่องจากว่าสวนลำไยอยู่ห่างจากหมู่บ้านคน ประมาณ 2 กิโลเมตร คาดว่า กลุ่มคนร้ายคงจะรู้จักกับครอบครัวผู้ตาย และทราบว่าผู้ตายเก็บทรัพย์สินทั้งทองรูปพรรณและเงินสดไว้กับตัว จึงได้บุกเข้ามาฆ่าชิงทรัพย์ ทั้ง 3 อย่างทารุณโหดเหี้ยม ขณะนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยสืบสวน ลงพื้นที่หาข้อมูล จากพยานหลักฐาน และพยานแวดล้อมรอบๆ จุดที่เกิดเหตุเพื่อใช้เป็นแนวทางในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งคาดว่าคนร้าย น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ที่มาร่วมกันก่อคดีนี้
ด้านนายดม ยอดดี อายุ 65 ปี เจ้าของสวนลำไย เปิดเผยว่า ครอบครัวผู้ตายทั้ง 3 คน มีสามีกับภรรยา และลูกสาว ได้มาทำงานเฝ้าสวนลำไยและรับจ้างอาศัยอยู่ในสวนประมาณ 8 ปีเศษ และผู้ตายทั้ง 3 ชอบซื้อสร้อยคอทองคำและแหวนทองคำเก็บไว้ แต่ไม่ทราบว่าเป็นจำนวนเท่าไร ก่อนเกิดเหตุตนได้มาเคาะประตูบ้าน แต่ไม่มีเสียงตอบ จึงไปแจ้งพ่อกำนัน จากนั้นได้ย้อนกลับมาอีกทีจึงได้ทดสอบโทรศัพท์เข้าไปเบอร์โทรศัพท์มือถือของผู้ตายพบว่ามีเสียงโทรศัพท์ดังออกมาจากในบ้าน จึงร่วมกับพ่อกำนันงัดประตูเข้าไปพบศพ นอนเสียชีวิตอยู่ในกระต๊อบทั้ง 3 ศพ อย่างไรก็ตามทางผู้ตายทั้ง 3 นั้นมีนิสัยดีไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดไม่เคยมีเรื่องหรือศัตรูกับชาวบ้านในละแวกนี้ จึงสงสัยว่าผู้ตายทั้ง 3 ถูกฆ่าน่าจะมาจากการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์และคนร้ายอาจจะรู้จักกับผู้ตายจึงฆ่าปิดปาก