ตอนนี้ชาวไร่ยาสูบภาคเหนือ อีสาน พากันทุกข์หนักกับภาษี 40% ที่จะปรับขึ้นในเดือน ต.ค.นี้

โดยมีเสียงครวญจากชาวไร่ยาสูบ จ.เพชรบูรณ์ ส่งจดหมายร้องทุกข์ถึง กอง บก.ไทยรัฐ ระบุว่า...4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลขึ้นภาษีบุหรี่ติดๆกันทุกปี ทำให้บุหรี่แพงกว่าเดิมเกือบเท่าตัว...

ส่งผลให้ชาวบ้านหันไปสูบบุหรี่หนีภาษี กับยาเส้นที่มีราคาถูกกว่าบุหรี่ ที่ถูก ก.ม. มากมายเกลื่อนเมือง ไม่เห็นว่าสิงห์อมควันจะเลิกสูบบุหรี่กัน กลายเป็นว่า การขึ้นภาษีบุหรี่มีแต่ทำร้ายชาวไร่ยาสูบ

ที่ผ่านมาเคยยื่นหนังสือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เลื่อนการขึ้นภาษี 40% ออกไปก่อน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีวี่แวว...

ส่วนสาวใหญ่ชาวไร่ยาสูบ จ.ร้อยเอ็ด บอกว่า...ทำไร่ยาสูบมาทั้งชีวิตเกือบ 40 ปี แต่ก่อนมีโควตาปลูกใบยาสูบ 5 ไร่ต่อปี เฉลี่ยรายได้ 1.5 แสนบาท ระยะเวลาปลูก 3-5 เดือน เป็นระยะเวลาที่สั้นและสร้างรายได้ดีพอสมควร

แต่ตอนนี้ได้รับผลกระทบการตัดโควตาจากการยาสูบแห่งประเทศไทย 58% ส่งผลทำให้รายได้หายไปกว่าครึ่งทุกปี

มาวันนี้กลับทุกข์หนักขึ้นเพราะได้รับความเดือดร้อนจากการลดโควตาไม่พอ ยังจะเก็บภาษีบุหรี่เพิ่มขึ้นอีก 40% ซึ่งการยาสูบฯบอกว่า ต่อไปไม่จำเป็น ต้องรับซื้อใบยาจากชาวไร่แล้ว จึงอยากให้เลื่อนการขึ้นภาษีไปก่อน

เช่นเดียวกับชาว จ.สุโขทัย โอดครวญว่า...ชาวไร่ยาสูบกว่า 7 พันครอบครัว ใน จ.สุโขทัย ต้องเดือดร้อนจากการขึ้นภาษีบุหรี่ 40% เนื่องจากถูกตัดโควตา เพิ่มอีก พืชทดแทนที่จะปลูกก็ยังไม่มีหน่วยงานใดติดต่อมา...

ดูเหมือนการรณรงค์งดสูบบุหรี่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คล้ายสุภาษิต ที่ว่า...“เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง...” เพราะรัฐบาลต้องการให้ คนเลิกสูบบุหรี่ แต่โรงงานผลิตบุหรี่กลับเป็นหน่วยงานของรัฐ

...

อีกทั้งยังเป็นรายได้มหาศาลของชาติด้วย...

ดังนั้น การรณรงค์งดสูบบุหรี่ด้วยการขึ้นภาษีบุหรี่อีก 40% เป็นอะไรที่ สวนทางกับความเป็นจริงเป็นอย่างมาก...

ที่สำคัญเป็นการตัดทางทำมาหากินของชาวไร่ยาสูบที่ยึดเป็นอาชีพ กันมาตั้งแต่ปู่ยาตายาย!!!

ทีมข่าวภูมิภาค