ข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากเว็บไซต์ https://www.cmuccdc.org
เชียงใหม่กลับมาอ่วมอีก ขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลก อากาศแย่ของโลกอีกครั้ง หลังสิ้นสุดการห้ามเผา ด้านผู้ว่าฯ แจงสถานการณ์เป็นไปในทางดีขึ้น ย้ำการเผาป่าเพื่อทำกินให้กำหนดเขตแนวและต้องขออนุญาต...
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 พฤษภาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่สิ้นสุดการบังคับใช้กฎหมายห้ามเผาในจังหวัดเชียงใหม่และ 9 จังหวัดภาคเหนือไป ไปเมื่อวันที่ 30 เม.ย.62 ที่ผ่านมา เช้าวันนี้
คุณภาพอากาศหรือฝุ่นจิ๋วในจังหวัดเชียงใหม่ กลับมาวิกฤติอีกครั้งอยู่ในระดับ "มีผลกระทบต่อสุขภาพ" อีกครั้ง โดยจุดตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 วัดค่าสูงสุด ณ เวลา 11.00 น. อยู่ที่จุด รพ. แม่แตง / Mae Taeng Hospital, Chiang Mai วัดค่า PM2.5 : ug/m3 ได้สูงถึง 513.29 ส่วนค่า AQI อยู่ที่ 588 ส่วนเว็บไซต์ AirVisual ได้จับอันดับค่า World AQI Ranking โดย ณ เวลา 12.17 น. และจังหวัดเชียงใหม่ติดอันดับ 1 ของโลกที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดอีกครั้ง โดยค่า AQI อยู่ที่ 159 เนื่องจากชาวบ้านและเกษตรกรเริ่มเผาวัชพืชเพื่อเตรียมการเพาะปลูกก่อนฤดูฝน
ส่วนการตรวจวัดค่าฝุ่นละอองในจังหวัดเชียงใหม่ของกรมควบคุมมลพิษ ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2562 ณ เวลา 09.00 น. พบว่าค่าฝุ่นละอองจากสถานีตรวจวัดทางอากาศของกรมควบคุมมลพิษทั้ง 4 สถานี ค่าคุณภาพอากาศไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้ามากนัก คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง-เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ค่า AQI เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 63-129 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 41-62 มคก./ลบ.ม. และค่า PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 63-86 มคก./ลบ.ม.
...
ขณะที่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผวจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำรับสถานการณ์โดยทั่วไปหมอกควันไฟป่าของเชียงใหม่ดีขึ้นมาก สำหรับการเผาเพื่อทำกิน ก็ให้มีการกำหนดแนวการเผา โดยทำแนวกันไฟและต้องขออนุญาตทางเจ้าหน้าที่ตามจุดที่จะมีการเผาในการปลูกพืชทางการเกษตรเพื่อทำกิน ซึ่งกำหนดเป็นจุดๆ ไป เพราะมีความจำเป็นเป็นช่วงฤดูกาลการปลูกพืชทำกิน ส่วนเรื่องการป้องกันไฟป่าก็ยังมีการดำเนินการไว้อย่างต่อเนื่อง โดยทางเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังคอยเฝ้าระวังกันอยู่
ส่วน นายคมสัน สุวรรณอัมพา รอง ผวจ.เชียงใหม่ เผยว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบจุดฮอตสปอตเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 154 จุด อยู่ในอันดับต้นๆ ของ 9 จังหวัดภาคเหนือ หลังจากที่สิ้นสุดการควบคุมการเผาของทางจังหวัดไปแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้แจ้งไปยังนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอ ให้แจ้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน หากเกษตรกรจะเผาเพื่อเตรียมการเพาะปลูก ต้องมาขออนุญาตเผาก่อน ส่วนมากยังคงเป็นการลักลอบเผาในเขตป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ซึ่งไม่ควรจะมีแล้ว จังหวัดได้เน้นย้ำทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการเฝ้าระวังและระงับเหตุ ศูนย์ฯ จังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์ฯ อำเภอ, ศูนย์ฯ ท้องถิ่น ยังคงปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเข้าสู่ฤดูฝนตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา.