หอหารค้าไทย ยันสนับสนุน "อิ๊งค์" เป็นนายกรัฐมนตรีเต็มที่ ระบุเศรษฐกิจ 1 ปีที่ผ่านมาไม่ใช่ฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า แต่กลับทรุดตัวลงประชาชนไม่มีกำลังการซื้อ เรื่องปากท้องก็ค่อนข้างมีปัญหา ย้ำตั้งรัฐบาลเร็ว มันก็จะไม่มีสุญญากาศเศรษฐกิจ  

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ที่ จ.นครราชสีมา นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ภายหลังร่วมเป็นประธานเปิดกิจกรรม “Big Match ยกระดับเศรษฐกิจ @ นครราชสีมา" ของหอการค้า จ.นครราชสี มาถึงวิกฤติเศรษฐกิจขณะนี้ อยากจะให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เร่งแก้ไขปัญหา รวมทั้งเรื่องสินค้าจีนตีตลาดไทยว่า เรื่องนี้เราต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจ 1 ปีที่ผ่านมาไม่ใช่ฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า ต้องบอกว่าทรุดตัวลง ประชาชนไม่มีกำลังการซื้อ ปากท้องของประชาชนก็ค่อนข้างมีปัญหา ฉะนั้นนี่เป็นความห่วงใยของหอการค้าไทยของเรา

ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวต่อว่า ตอนนี้ได้มีการตั้งคณะทำงานมาประมาณ 1 เดือนแล้ว กำลังทำข้อมูลเสนอให้กับทางรัฐบาล เพื่อบอกว่าจะมีมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง จะมีมาตรการที่จะต้องเยียวยาให้กับประชาชนอย่างไรบ้าง และสิ่งที่สำคัญก็คืออนาคตของประเทศไทยจะไปอย่างไร คือมันต้องมีกลยุทธ์ของประเทศไทย ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วมันจะสร้างการไม่ได้รับความเชื่อถือจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ สิ่งนี้คิดว่าเราคิดว่าคงจะพร้อมที่จะนำเสนอให้กับทางรัฐบาลและทางสาธารณชนได้ทราบ หรือว่าหอการค้าอยากจะเห็นประเทศไทยในอนาคตเป็นอย่างไรบ้าง ตนเข้าใจว่าต้นเดือนหน้าคงจะออกมาเป็นทางการ

นายสนั่น กล่าวถึงประเด็นการตั้ง ครม.ชุดใหม่ ถ้าล่าช้าจะส่งผลกระทบอย่างไรบ้างว่า ส่วนตัวคิดว่าทางรัฐบาลคงจะเป็นพรรคขั้วเดิมก็ไม่มีความกังวล และนายกรัฐมนตรีแน่นอนคือมาจากพรรคเพื่อไทย ก็คิดว่าทุกอย่างจะเร็วมากในการจัดตั้งรัฐบาลเร็วมาก มันก็จะไม่มีสุญญากาศเกี่ยวกับเรื่องระบบของเศรษฐกิจ ซึ่งเราก็ต้องดูว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะแถลงต่อรัฐสภาว่าจะบริหารประเทศเป็นลักษณะอย่างไรบ้าง ซึ่งทางหอการค้าของเราเองเป็นภาคเอกชนก็คงจะให้ความร่วมมือและสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะหอการค้าของเรามีทุกรุ่น รุ่นใหม่ และก็รุ่นใหม่ ฉะนั้นเราพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล

...

ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวถึงเรื่องอาถรรพณ์ซ้ำรอยของตระกูลชินวัตรในทางการเมืองว่า เรื่องนี้ตนว่าเราอย่าไปดูเฉพาะตัวบุคคล แต่ละท่านก็มีบุคลิกที่มีเอกลักษณ์ มีจุดเด่นและจุดอ่อนของแต่ละคน ตนว่าเราต้องดูภาพรวมของประเทศเป็นที่ตั้ง ประเทศไทยก็ยังต้องเดินหน้าต่อ ส่วนดิจิทัล 10,000 บาท ต้องเดินหน้าต่อนั้น นายสนั่นกล่าวว่า เรื่องดิจิทัลวอเล็ตก็ยังไม่มีความชัดเจน ที่จริงทางหอการค้าไทยเราเองตั้งแต่เริ่มต้นที่มีโครงการว่าจะทำเรื่อง 10,000 บาทดิจิทัลวอเล็ต เราก็ได้นำเสนอให้กับรัฐบาลแล้วว่าเร็วที่สุดที่จะช่วยประชาชนก็คือเราไปเน้นกลุ่มรากหญ้าที่เขาเดือดร้อนจริงๆ

"จริงๆ แล้วมันก็มีข้อมูลในแอปพลิเคชันเป๋าตังประมาณ 15-16 ล้านคน ซึ่งเขาลำบากจริงๆ ก็จ่ายไปเลย แล้วส่วนอื่นๆ ก็ว่ากันอีกทีนึง ตนคิดว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้วมันก็เร็วมาก และเราทุกอย่างก็มีความพร้อมอยู่แล้ว เราก็ดูว่าเนื่องจากเขาก็ดีใจว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยก็ได้ประกาศออกมาแล้วว่าเขาจะต้องทำเรื่อง 10,000 บาทดิจิทัลวอลเล็ต สิ่งนี้อดีตนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ก็ได้ทำหน้าที่ที่สัญญาไว้ท่านก็ได้ทำเต็มที่ แต่จากนี้ไปก็จะติดตามดูว่าความสำเร็จในโครงการนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครทราบ" นายสนั่น กล่าว.