ชาวฉะเชิงเทราที่มีอาชีพหาเช้ากินค่ำ บอกผิดหวังแต่ต้องทำใจ สอดคล้องกระแสข่าวออกมาว่า ชวดเงินดิจิทัล 10,000 บาท หลัง "เศรษฐา" พ้นนายกฯ ขณะที่ บรรยากาศร้านค้าเงียบเหงา ไม่ออกมาจับจ่ายเหมือนทุกวัน

เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (14 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตามดูบรรยากาศชุมชนห้าแยก ตลาดหัวสำโรง ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา เป็นไปด้วยความหงอยเหงากว่าทุกๆ วัน ร้านค้า ต่างนั่งมองหน้ากัน แทบจะไร้คนมาหาซื้อ ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติโดยเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) กรณีแต่งตั้งให้ นายพิชิต ชื่นบาน นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติในการเข้ารับตำแหน่ง 

สอบถามพี่เอ (นามสมมติ) พ่อค้าขายผลไม้ กล่าวว่า ตนเคยคาดหวังในนโยบายที่เขาหาเสียงเลือกตั้ง แต่พอจัดตั้งรัฐบาล ตนก็ไม่มีอะไรที่จะต้องคาดหวัง เพราะยังไม่เห็นนายกฯ ท่านนี้ ทำอะไรได้ตามที่พูดไว้ต่อประชาชนได้สักอย่าง พร้อมบอกว่าทุกวันนี้ชาวบ้านตาดำๆ ทำมาหากินช่วยเหลือตนเองกัน ด้วยการหาเช้ากินค่ำพอมีเงินประคองครอบครัว ลูกหลานมีเงินไปโรงเรียน พร้อมบอกว่าไม่ใช่แค่ที่นี่ เชื่อทั้งประเทศประชาชนแทบจะไม่มีรายได้กันแล้ว เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ พอศาลตัดสินนายกฯ พ้นตำแหน่ง ยิ่งทำให้ทั้งตน ชาวบ้านพากันหงอยเหงาเหมือนสิ้นหวังลงทันทีกับเงินดิจิทัล 10,000 บาท คงไม่ได้แล้ว

...

ขณะที่เจ๊หมวยที่กำลังทำขนม ก็เล่าให้ฟังว่า เรื่องเงินดิจิทัลไม่คาดหวังอยู่แล้ว เงื่อนไขเยอะจัด จะให้ชาวบ้านก็ให้เลย ทำไมต้องสร้างเงื่อนไขมากมาย ชาวบ้านลำพังจะทำมาหากินไปในแต่ละวันยังแย่แล้ว ทำไมต้องมาสร้างเงื่อนไขในการใช้เงินที่ต้องไปเฉพาะร้าน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า ชาวบ้านไม่ออกมาจับจ่ายเหมือนทุกวัน ทันทีที่ศาลสั่งนายกฯ พ้นตำแหน่ง ชาวบ้านพากันพูดตรงกันคือรู้สึกผิดหวังอย่างมาก.