ย่านสตรีทฟู้ด ถนนช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ เงียบเหงารับข่าวร้ายโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท บางส่วนเชื่อการยุบสภา จะเป็นทางออกดึงการเมืองพ้นวังวน ขณะที่ พ่อค้าแม่ค้าที่เมืองขอนแก่น เชื่อ โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะหายไปพร้อมอดีตนายกฯ เศรษฐา

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ทีมข่าวสำรวจความเห็นประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่หลัง ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติโดยเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) กรณีแต่งตั้งให้ นายพิชิต ชื่นบาน นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ว่า นายพิชิต เคยถูกตัดสินว่าละเมิดอำนาจศาล และศาลมีคำสั่งให้จำคุก 6 เดือน กรณีนำถุงขนมใส่เงิน 2 ล้านบาท ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาล ระหว่างการพิจารณาคดีที่ดินรัชดาฯ ของศาลฎีกาคดีแผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ต่อมา นายเศรษฐา ได้เผยถึง "ดิจิทัลวอลเล็ต" 10,000 บาท ว่า ตัวเองไม่มีอำนาจแล้ว หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของรักษาการ หรือนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ถ้าเกิดเปลี่ยนผู้นำแล้ว เขาก็มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายได้ตามที่เห็นสมควร ส่งผลให้นโยบายรัฐบาลโดยเฉพาะเงินดิจิทัล 10,000 บาทต้องสะดุดหยุดลงไปพร้อมกัน โดยชาวบ้านบางส่วนยังมีความหวังเพราะมองว่าเป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทยที่จำเป็นต้องสานต่อ ขณะที่บางส่วนเบื่อหน่ายการเมืองที่ไร้เสถียรภาพและเรียกร้องให้ยึดประชาชนเป็นที่ตั้งด้วยการยุบสภาเลือกตั้งใหม่

...

บรรยากาศโซนสตรีทฟู้ดตลาดศิริวัฒนา ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ค่อนข้างเงียบเหงา มีลูกค้าบางตา พ่อค้าแม่ค้าหลายคนขายอาหารอย่างสิ้นหวัง หลังทราบข่าวว่าโครงการเงินดิจิทัลเป็นอันต้องพักไปก่อนหลัง ครม.พ้นตำแหน่ง

นางบัว (สงวนนามสกุล) แม่ค้าอาหารตามสั่ง กล่าวว่า เศรษฐกิจย่ำแย่ส่งผลกระทบต่อการค้าขายมานาน จากเดิมหุงข้าวขายอาหารวันละ 6 หม้อใหญ่ ปัจจุบันขายได้ไม่ถึง 4 หม้อ มีความหวังว่าเงินดิจิทัล 10,000 บาทจะมาช่วยกระตุ้นประชาชนให้ออกมาจับจ่ายใช้สอย กระตุ้นการค้าขายให้คึกคัก แต่ตอนนี้ยอมรับว่าไม่น่าจะได้แล้ว แต่ก็ฝากความหวังไปถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่ให้สานต่อแม้จะต้องรื้อเริ่มใหม่หรือใช้เวลานานเท่าไรก็จะรอ

ด้าน นายบัณฑิต เจียมสกุล แสดงความเห็นว่าเรื่องเกิดขึ้นอาจเป็นเกมการเมืองที่ทำให้นายกรัฐมนตรีลงจากตำแหน่ง ทำให้พรรคเพื่อไทยมีทางออกในการพักโครงการเงินดิจิทัลที่มีความเสี่ยงผิดกฎหมาย แต่ขณะเดียวกันก็มองว่าประชาชนจำนวนไม่น้อยที่เลือกพรรคเพื่อไทยก็เพราะโครงการเงินดิจิทัล ถือเป็นนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน นายกรัฐมนตรีคนต่อไปที่เชื่อกว่าจะมาจากพรรคเพื่อไทยก็น่าจะสานต่อเพราะเป็นความหวังและสัญญาไว้กับประชาชน

นายบัณฑิต บอกว่า การเมืองไทยวนเวียนไม่ไปไหนมานาน อยากให้มีเสถียรภาพมากกว่านี้ อยากให้การเมืองไทยเปลี่ยนแปลง เพราะที่ผ่านมาเป็นเกม พรรคการเมืองและนักการเมืองทำเพื่อคนบางคนและบางกลุ่มเท่านั้น อยากให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่เพื่อเซตซีโร่ โดยเชื่อว่าอนาคตประเทศวันจะดีขึ้น หากทุกฝ่ายยอมรับและฟังเสียงประชาชน

ขณะที่ บรรยากาศที่ตลาดสดบางลำภู ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยความคิดเห็นส่วนใหญ่เสียดาย หากโครงการดังกล่าวไม่ได้ไปต่อ และมีทั้งเชื่อและไม่เชื่อว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น จะเดินหน้าต่อภายใต้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้

...

นายสำเริง รอดทอง อายุ 46 ปี ชาวบ้าน ม.15 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ค้าขายอยู่ภายในตลาด ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในเรื่องความกังวลนั้นมีมาตั้งแต่ตั้งรัฐบาลแล้ว และมีมาเรื่อยๆ ตามที่เห็นคือ เศรษฐกิจไม่มีการฟื้นตัว และโครงการนี้คงจะหายไปเลย คิดว่าคงจะไปพร้อมกับนายกเศรษฐาเลย เพราะคนที่ป่าวประกาศโครงการคือนายกฯ เศรษฐา

หากถามความรู้สึกไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไร เพราะคิดว่าไม่ได้ตั้งแต่แรก เมื่อก่อนพรรคที่ได้อันดับหนึ่งพูดแล้วสามารถทำได้ แต่พรรคนี้พูดแล้วผ่านไป 1 ปียังไม่สามารถทำได้ตามที่พูด จึงไม่รู้สึกอะไร แต่สำหรับคนอื่นๆ ที่รากหญ้าก็คงจะรู้สึก เพราะคนเหล่านั้นมีความหวังกับเงินจำนวน 10,000 บาทเป็นอย่างมาก อยากจะฝากนายกฯ คนใหม่ว่าอยากให้พยุงเศรษฐกิจไทยให้ไปได้ดีกว่านี้เพราะตอนนี้ยากมาก เงินเก่าของพ่อค้าแม่ค้าตอนนี้ใช้จนหมดไปจะไม่มีใช้แล้ว หากถามว่าโครงการนี้จะได้ไปต่อหรือไม่หากคนของพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นนายกฯ เชื่อว่าไม่ได้ไปต่อเพราะคนที่ประกาศนโยบายนี้ไปแล้ว แต่ก็คิดว่าคงจะหาวิธีแก้เรื่องนี้เข้ามาแทนแต่ความหวังโครงการนี้ที่จะได้ไปต่อคงริบหรี่ เพราะขนาดตัวหลักยังทำไม่ได้ ตัวรองก็คงจะไม่ได้เช่นกัน

...

ขณะที่ นางสาวธัชชนก พิมพ์ทอง อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ม.2 ต.ทุ่งสว่าง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ขายกิ๊บเซตอยู่ภายในตลาด ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจนั้นกังวลอยู่แล้ว เพราะพื้นฐานสังคมไทยต้องใช้เงินเป็นปัจจัยหลัก และการเมืองก็ไม่เสถียรภาพ เศรษฐกิจก็ฝืด การหนุนเรื่องเศรษฐกิจก็น้อยลง ทำให้มีผลกระทบกับการดำรงชีวิตของคน ไม่มั่นใจว่าโครงการนี้จะได้ไปต่อหรือไม่ เพราะไม่ชัดเจนตั้งแต่แรก หากเป็นนายกฯ คนเดิมก็อำนาจไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด พอได้เงินมาก็ไม่รู้จะนำไปใช้ที่ไหน หากใช้ในร้านค้าใหญ่ ร้านค้าย่อยอย่างเราๆ ก็คงกระทบ อยากฝากนายกฯ คนใหม่ขอให้มีความจริงใจ เวลาหาเสียงก็อยากให้ทำได้ อยากให้มองความเป็นไปได้เป็นสำคัญ ไม่ใช่นโยบายสวยหรูแต่ทำไม่ได้ และมองว่าหากนายกฯ คนใหม่มาจากเพื่อไทยก็ไม่มั่นใจว่าจะไปต่อได้หรือไม่ เพราะไม่รู้ว่าแหล่งเงินมาจากไหน ขนาดจะเริ่มต้นโครงการก็ยังยาก ถ้าถามว่าเสียใจไหมก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็ต้องยอมรับความจริง เพราะเราหาเช้ากินค่ำที่ต้องการเงินซึ่งเป็นปัจจัยสี่

...

ส่วน นางสาวปัทมา พาพันธุ์เรือง อายุ 43 ปี ชาวบ้าน ม.15 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขายขนมอยู่ในตลาด ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจนั้นเป็นมาแบบนี้มาหลายปี ไม่เกี่ยวว่าใครจะเป็นนายกฯ เรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ตนั้นไม่ได้ไปต่อก็คงตั้งหน้าทำมาหากินเหมือนเดิม ในอนาคตหากคนในพรรคเดียวกันกับคุณเศรษฐามาสานต่อก็เชื่อว่าน่าจะเดินหน้าต่อโครงการได้ ต้องดูนายกฯ คนต่อไป หากไม่ใช่นายกฯ ข้ามขั้ว หากยุบโครงการนี้ไปก็คงรู้สึกเสียดาย อยากให้นายกฯ คนใหม่มาดูแลเรื่องเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพราะแย่มาหลายปีแล้ว สำหรับคนหาเช้ากินค่ำไม่สามารถมีเงินเก็บได้เลย สำหรับเงิน 10,000 บาท นี้คาดหวังไว้ทีแรกว่าจะนำมาต่อทุน แต่หากโครงการไปต่อไม่ได้ก็คงช่วยเหลือตัวเองต่อไป.