เจมส์บุรี ผู้ผลิตอัญมณีชื่อดังของจันทบุรี ขอคงเสน่ห์ "พลอยเมืองจันท์" ที่เด่นด้วยงานฝีมือช่าง ทั้งการเผา งานเจียระไน ที่ยังเป็นเอกลักษณ์ ลอกเลียนแบบได้ยาก

นายภูเก็ต คุณประภากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจมส์บุรี จำกัด กล่าวว่า รุ่นคุณพ่อทำธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณีมากกว่า 50 ปี จนมาถึงรุ่นผมเป็นรุ่นที่สองที่ก่อตั้งเจมส์บุรีกับหุ้นส่วนที่ทำธุรกิจอัญมณีเช่นกัน ก็ประมาณ 20 กว่าปี โดยเราถือเป็นผู้นำด้านพลอยในจันทบุรี ไม่ว่าจะเป็นการหาวัตถุดิบ การเผา การเจียระไน เป็นที่ยอมรับอย่างมากในตลาด เนื่องจากเรามีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ถึงแม้ว่าพลอย หรือพลอยก้อนในจันทบุรีจะมีน้อยลง ซึ่งปัจจุบันพลอยกว่า 90% เรานําเข้าจากต่างประเทศก็ตาม

อย่างไรก็ตาม พลอยที่มีในประเทศไทยจะเป็นพลอยเนื้อแข็ง เป็นพลอยตระกูลคอรันดัมที่เป็นทับทิมกับไพลิน เดิมเรามีทับทิมอยู่ที่จันทบุรีและตราด ส่วนไพลินเรามีที่กาญจนบุรี แต่ปัจจุบันวัตถุดิบหลักที่เรามีก็คือทับทิม ทั้งนี้ ส่งผลให้เราต้องมองวัตถุดิบจากที่อื่นๆ เช่น เมียนมา ซึ่งเป็นที่นิยมค่อนข้างสูงในตลาดโลกในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้เราก็มีแหล่งวัตถุดิบเพิ่มเติมก็คือ แอฟริกา ซึ่งมีเหมืองพลอยอยู่ที่ประเทศโมซัมบิก โดยมีบริษัทที่รับสัมปทานพลอยก้อนนำมาประมูลในประเทศไทย ซึ่งแต่เดิมจะมีการจัดการประมูลที่สิงคโปร์

โดยการที่ย้ายฐานการประมูลจากสิงคโปร์มาไทยถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ส่วนไพลินนั้นในประเทศไทยเรามีแหล่งผลิตหลักเดิมก็คือที่กาญจนบุรี ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีอยู่ แต่ในแง่ของสีและคุณภาพก็มีความแตกต่างไปจากวัตถุดิบจากประเทศอื่นๆ โดยวัตถุดิบพลอยสีน้ำเงินนั้นเป็นที่นิยมมาก ไม่ว่าจะเป็นสี หรือคุณภาพ ที่มาจากศรีลังกา หรือแอฟริกาบ้าง เมื่อเราได้อัญมณีมาแล้ว ผู้ประกอบการก็จะนำมาวัตถุดิบมาเผา มาเจียระไน

...

โดยสินค้าพลอยสำเร็จรูปที่เป็นทับทิม ซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลกกว่า 80% นั้น นำมาสร้างมูลค่าเพิ่มที่ประเทศไทย การซื้อขายพลอยในประเทศไทยจะมี 2 กลุ่มด้วยกัน คือ ผู้ประกอบการ ก็เช่นโรงงานผลิตเครื่องประดับ ทั้งในประเทศเองและต่างประเทศ เช่น อินเดีย ฮ่องกง จีน รวมไปถึงประเทศอื่นๆ เช่น ในยุโรป ส่วนกลุ่มที่สองเป็นกลุ่มเทรดเดอร์ ในภาษาทางการค้าเราจะเรียกว่า กลุ่มพ่อค้าพลอยต่างประเทศ ซึ่งจะมีออฟฟิศกระจายอยู่ทั่วโลก ที่จะเข้ามาซื้อพลอยในประเทศไทยเพื่อนำไปขายต่อ

นายภูเก็ต กล่าวอีกว่า กลุ่มผู้ผลิตพลอยจันทบุรีมีมาตรฐานสูง แม้วัตถุดิบจะนำเข้ามาจากต่างประเทศก็ตาม จุดเด่นสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มของเราก็คือ ฝีมือช่าง การเผา การเจียระไน ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ และมาตรฐานมาอย่างยาวนาน ทำให้เราได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมาโดยตลอด

ขณะเดียวกันทางอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยกำลังมองถึงการสร้างมาตรฐานให้กับลูกค้า เช่น การออกใบ certificate หรือใบรับรองจากสถาบันที่เชื่อถือได้ เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มมั่นใจในอัญมณีและเครื่องประดับของเรา ซึ่งก็ตรงกับเทรนด์ของลูกค้าในปัจจุบัน ที่ต้องการสินค้าดีมีคุณภาพและมีมาตรฐาน

ส่วนการแข่งขันในระดับโลกนั้น ทางผู้ผลิตอัญมณีเองก็เกาะติดสถานการณ์ตลาดมาโดยตลอด เช่น หากเริ่มมีการโปรโมตพลอย ไม่ว่าจะเป็นสีไหน ชนิดใด ที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของโลก เราก็จะผลิตสินค้าเหล่านี้ไว้เพื่อให้ผู้ประกอบการที่จะนำไปทำเป็นเครื่องประดับได้มาเลือก เพื่อนำไปทำเป็นเครื่องประดับต่อไป

"สิ่งที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ เรามีดีไซเนอร์เครื่องประดับเก่งๆ เป็นจำนวนมาก และสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ และการออกแบบนั้นมีความทันสมัยเทียบเคียงกับงานที่ถูกออกแบบโดยกลุ่มดีไซเนอร์ชื่อดังต่างประเทศเลยทีเดียว"

สำหรับงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024 หรือ JGAB 2024 ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 1-4 พ.ค. 67 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ นี้ เชื่อว่าจะสามารถดึงดูดผู้ประกอบการ และ Trader ทั่วโลกจะร่วมเจรจาธุรกิจ โดยปีนี้เรามองว่ามีแนวโน้มที่ดี แม้อาจจะมีข้อกังวลภาพรวมตลาดโลก แต่โดยรวมจะช่วยให้ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเติบโตได้ต่อเนื่อง