สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ต ยื่นหนังสือถึงมือ นายกฯ "เศรษฐา" ขอให้อนุมัติ 4 โครงการหวังยกระดับภูเก็ตให้มีมาตรฐานการท่องเที่ยวระดับสากล โดยเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนรายได้หมุนเวียนในจังหวัด

เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 19 เม.ย. 67 ที่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ถ.เทพกระษัตรี ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและคณะกรรมการได้ยื่นหนังสือต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ช่วยเหลืออนุมัติโครงการเพื่อยกระดับจังหวัดภูเก็ตให้มีมาตรฐานการท่องเที่ยวระดับสากล รวม 4 โครงการ ดังนี้

1.โครงการจัดตั้งเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษเพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ขออนุมัติงบประมาณจัดสรรไม่น้อยกว่า 1-5% ของรายได้จากภาคบริการและการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตที่นำส่งรายได้เข้ารัฐ โดยมีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับผิดชอบ
2.โครงการสร้างมารีน่าชุมชน หรือ บริการขนส่งทางทะเลรอบเกาะจังหวัดภูเก็ต จำนวน 10 ท่าเรือ ภายใต้งบประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อเพิ่มทางเลือกและลดการแออัดการคมนาคมทางบก อีกทั้งกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานราก ต่อยอดพัฒนาสู่ทำเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise terminal) โดยมี กรมเจ้าท่ารับผิดชอบ
3.โครงการบูรณาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการจราจรจังหวัดภูเก็ตด้วยระบบ AI ภายใต้งบประมาณ 397,524,000 บาท โดยมีสำนักงานจังหวัดภูเก็ตรับผิดชอบ
4.โครงการช่วยเหลือโรงแรมที่พักขนาดเล็ก ขอพิจารณาเพื่อติตตามและอนุมัติฉบับร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ตภายในเดือน เม.ย.นี้

...

ทั้งนี้จากข้อมูลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2566 มีจำนวนผู้มาเยี่ยมเยือน ภูเก็ต 11.3 ล้านคน ซึ่งโตขึ้นจากช่วงโควิดเท่าตัว โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยว ต่างชาติ 75% ชาวไทย 25% และมีรายได้จากการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 388 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ในปี 2567 ในช่วงเดือน ม.ค. ถึง ก.พ. มีนักท่องเที่ยว รวม 2.4 ล้านคน โดยเฉลี่ย 1.2 ล้านคน/เดือน เติบโตแบบเทียบปีต่อปีถึง 38% ทำให้การท่องเที่ยวและจำนวนผู้มาเยือนจังหวัดภูเก็ต มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จึงมองเห็นว่า การมาเยือนของท่านครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีต่อจังหวัดภูเก็ต การเพิ่มหรือขยายเส้นทางการคมนาคมภายในจังหวัด การใช้ระบบอัจฉริยะ Al และการขนส่งทางทะเล จึงถือว่าเป็นสาธารณูปโภคหนึ่ง ที่ให้ประโยชน์ต่อชาวภูเก็ตในภาพรวม และสามารถช่วยยกระดับการท่องเที่ยวให้สู่ระดับสากล ให้กับภูเก็ตและประเทศ และมั่นใจว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนรายได้หมุนเวียนในจังหวัด.