"ตระกูลเตชะไพบูลย์" ศึกษาแผนพัฒนาที่ดิน 500 ไร่บนหาดชะอำ-หัวหิน ล่าสุดแตกไลน์สู่ธุรกิจอาหาร เตรียมเปิดตัวรับสงกรานต์ หวังสร้างแลนด์มาร์กใหม่ชะอำ-หัวหิน เผยปีหน้าเตรียมจ่อโรงแรมใหม่ 5 ดาวขนาด 100 ห้อง
นางสาววศุมา คณาธนะวนิชย์ กรรมการบริหาร นู แชปเตอร์ โฮเทล ภายใต้ตระกูลเตชะไพบูลย์ ซึ่งคร่ำหวอดธุรกิจโรงแรม ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวหิน-ชะอำ และให้บริการโรงแรมวาลา หัวหิน เปิดเผยว่า ภายหลังการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวในชะอำ-หัวหินมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยสะท้อนจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบกับมีประสบการณ์ด้านอาหารมานาน
ล่าสุดบริษัทจึงตัดสินใจแตกไลน์ธุรกิจอาหาร เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจโรงแรมแต่เพียงอย่างเดียว โดยจะเปิดร้านอาหาร ชื่อ คาซ่า มาเร่ ในรูปแบบสแตนอะโลนร้านแรก บนชายหาดชะอำยาว 200 เมตร จำหน่ายอาหารไทย ซีฟู้ด รวมถึงอาหารสไตล์เอเชียและยุโรปสมัยใหม่ รองรับลูกค้าได้ 250 ที่นั่งทั้งในร่มและกลางแจ้ง นอกจากนี้ร้านอาหารดังกล่าวยังสามารถจัดงานสังสรรค์ งานอีเวนต์ หรืองานแต่งงานได้ตั้งแต่ 30-300 คน
...
"เราอยากให้คาซ่า มาเร่ เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาชะอำ-หัวหิน"
ขณะเดียวกันช่วงต้นเดือน เม.ย.67 นี้ จะเปิดให้บริการ เซลา ซีแซงชัวรี่ สปา หรือทะเลบำบัด ด้วยบริการทรีตเมนต์ สำหรับรองรับลูกค้าทั้งภายนอกและในโรงแรมวาลา หัวหิน พร้อมกับเปิดตัว คิดส์คลับ วันเดอร์ วูดส์ สำหรับเด็กอายุ 2-12 ปี ในพื้นที่ 160 ตารางเมตร แหล่งส่งเสริมเรียนรู้กิจกรรมเด็กๆ เช่น โซนบ่อบอล และมินิสไลเดอร์ และกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การปลูกผัก เก็บไข่ไก่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักในโรงแรมได้ทำกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น และดึงดูดคนภายนอกเข้ามาใช้บริการ ทำให้รายได้โรงแรมเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับโรงแรมวาลา หัวหิน ถือเป็นโครงการลงทุนใหม่ล่าสุดมูลค่าลงทุนรวม 1,200 ล้านบาท ดำเนินงานภายใต้ธุรกิจ นู แชปเตอร์ โฮเทล ที่เปิดให้บริการเมื่อปี 63 ซึ่งได้การตอบรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมากตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวชะอำ-หัวหิน โดยมีอัตราเข้าพักอยู่ที่ 65%
ปัจจุบันลาวา หัวหิน มีลูกค้าพำนักระยะสั้นจากประเทศต่างๆ เช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน มากกว่า 50% จากเดิมที่ลูกค้าหลักเป็นคนไทยถึง 90% และในอนาคตจะเน้นขยายตลาดนักท่องเที่ยวพำนักระยะยาว ที่มาจากยุโรปเพิ่มขึ้น
สำหรับกลุ่มเตชะไพบูลย์ ยังมีที่ดินในหัวหิน-ชะอำอีก 500 ไร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ว่าจะพัฒนาอะไรบ้างในระยะยาวโดยทั้งโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรมขนาด 100 ห้อง และร้านเบเกอรี่ขนมหวาน ล้วนอยู่ในแผนธุรกิจในอนาคตทั้งสิ้น