ประชาชนผู้ใช้รถ ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ โอดเดือดร้อนกันทั่วหน้า หลังราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นไม่หยุด รวมทั้งรถสามล้อรับจ้าง หรือรถสกายแลป ต่างครวญ วิ่งแต่ละวันไม่คุ้มค่าน้ำมัน ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือลดค่าครองชีพ หรือตรึงราคาน้ำมันลิตรละ 30 บาท

เมื่อวันที่ (31 ม.ค. 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นมา ราคาน้ำมันกลุ่มน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ ได้ปรับราคาขึ้นอีกลิตรละ 30 สตางค์ นับว่าเป็นการปรับราคาขึ้นในรอบเดือนมกราคม 2567 ถึง 7 ครั้ง เป็นเงินที่ขึ้น 2.80 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดอุทัยธานีที่ใช้ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เดือดร้อนกันทั่วหน้า ต่างบ่นกันอุบ แต่ก็ยังมีความจำเป็นต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับขึ้นราคาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องราคาน้ำมันได้ ตามที่มีมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันเป็นเวลา 3 เดือน แต่ยังไม่พ้น 3 เดือน ก็ปรับขึ้นดังกล่าว

ประชาชนหาเช้ากินค่ำรายหนึ่งที่เข้ามาเติมน้ำมันรถจักรยานยนต์ กล่าวว่า แม้ว่าราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจะขึ้นมาเท่าไร และจะขึ้นกี่ครั้ง ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอะไรได้ ก็ต้องเติมน้ำมันอยู่ดี แต่การที่น้ำมันราคาขึ้น มันไม่สมดุลกับการรายได้ ค่าแรงเท่าเดิม หรือน้อยกว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่ราคาน้ำเชื้อเพลิงที่เป็นต้นทุนมันที่สูงขึ้น เคยเติม 80 บาทเต็มถัง ต้องเติมเป็น 100 บาทจึงจะเต็มถัง อยากจะวอนให้รัฐบาลแก้ปัญหาอย่างถาวร นอกจากนี้ก็อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงด้วย

...

ขณะที่ประชาชนที่มีอาชีพรถสามสอล้อรับจ้าง หรือ รถสกายแลป ที่รับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุทัยธานี บอกว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นก็ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก รถรับจ้างที่มีอยู่ประมาณ 10 คัน เช้านี้มีมาวิ่งรับจ้างเพียง 2 คันเท่านั้น เพราะถ้าวิ่งกันครบยังจะไม่ได้ผู้โดยสาร มาวิ่งก็ไม่คุ้มค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลา ทุกวันนี้ออกมาวิ่งให้พอให้ได้ค่ากับข้าว เหลือวันละ 50-100 ก็ยังดี อยากให้รัฐบาลแก้ไขราคาน้ำมันให้เหลือ 30 บาท เท่าๆ กับการตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ทำมันตรึงราคาได้ คนที่ใช้กลุ่มน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ ก็เป็นคนไทยมีความเดือดร้อนเช่นกัน ขอให้เร่งแก้ไขราคาน้ำมันอย่างเร่งด่วน แต่คงหวังอะไรไม่ได้กับรัฐบาล ขนาดมีมติจากคณะรัฐมนตรีถึงมาตรการการช่วยเหลือราคาน้ำมันให้เหลือลิตรละ 33 บาท ยังทำไม่ได้เลย.