นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสวนผึ้ง เผย อ.สวนผึ้ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพครบ ทั้งที่พัก และธรรมชาติ แต่นักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นคนไทย ไม่ได้ประโยชน์จากฟรีวีซ่า แนะหามาตรการกระตุ้นคนเที่ยวเมืองรอง และวอน กฟภ.แก้ไขไฟฟ้าตกช่วงไฮซีซั่น

ร.อ.กฤษ ศิริภูโล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสวนผึ้ง กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวใน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ภายหลังตามที่รัฐบาลได้เตรียมความพร้อม และขับเคลื่อนนโยบายวีซ่าฟรี หวังฟื้นฟูการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น

นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสวนผึ้ง เปิดเผยว่า ปัจจุบัน อ.สวนผึ้ง มีผู้ประกอบการร้านอาหาร และที่พักรวมกว่า 300 ราย โดยมีการจดแจ้งขึ้นทะเบียนกับสมาคมฯ ประมาณ 100 ราย ในส่วนของสถานการณ์การท่องเที่ยวของ อ.สวนผึ้ง ขณะนี้เริ่มกลับมาฟื้นตัวแล้ว หลังต้องเผชิญกับวิกฤติการระบาดของโรคโควิด-19 โดยในช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่เดือนตุลาคม-มกราคม ทางสมาคมฯ และผู้ประกอบการ ร่วมกันวางแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยกิจกรรมต่างๆ อาทิ คอนเสิร์ตรับลมหนาวส่งท้ายปี 2566 ของศิลปินดารา และการแคมปิ้ง ซึ่งจะจัดให้มีอย่างต่อเนื่องทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่งผลให้มียอดจองที่พักแล้วถึงร้อยละ 90

...

ร.อ.กฤษ กล่าวต่อว่า แม้ว่านโยบายวีซ่าฟรีของรัฐบาลก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการใน อ.สวนผึ้ง จะไม่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการนี้มากนัก เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย แต่ในฐานะตัวแทนของผู้ประกอบการอยากให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการลด หรือคืนภาษี เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสนใจ และเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองรองมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการกระจายรายได้อีกทางหนึ่ง

นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสวนผึ้ง กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังต้องการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านระบบกระแสไฟฟ้าใน อ.สวนผึ้ง เข้ามาขยายเขต และเพิ่มเฟสระบบไฟฟ้าให้มีความเสถียรมากขึ้น เนื่องจากเมื่อเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักแรมตามที่พักต่างๆ พร้อมทั้งมีกิจกรรมยามค่ำคืนที่สมาคมฯ จัดค่อนข้างมาก ส่งผลทำให้กระแสไฟตก ไฟดับ เสียบรรยากาศการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการไม่สามารถขยายระบบบริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charging Station) ให้กับนักท่องเที่ยวได้.