บิ๊กต๊ะ ขานรับนโยบายรัฐบาล “ฟรีวีซ่า” กระตุ้นการท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ เดินหน้าประสานทุกหน่วย หารือเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติ และดูแลนักท่องเที่ยวชาวจีน ตั้งแต่มาถึงสนามบิน และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

ตามที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน ด้วยมาตรการ “ฟรีวีซ่า” สำหรับนักท่องเที่ยว 2 ประเทศ คือ จีน และคาซัคสถาน สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 รวมระยะเวลา 5 เดือน โดยมาตรการเพื่อจะมากระตุ้นการเดินทางในช่วงวันชาติจีน (1 ต.ค.) ยาวไปจนถึงช่วงตรุษจีนเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ส่วนนักท่องเที่ยวจากคาซัคสถาน เป็นมาตรการที่นำมาใช้เพราะมองว่าคาซัคสถานเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่สามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยได้

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ร่วมประชุมหารือแนวทางมาตรการรับนักท่องเที่ยวชาวจีน และคาซัคสถาน โดยได้เชิญ นางหยาง โจ่ว รักษาการกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดเชียงใหม่ โดยที่ประชุมประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บก.ตม.5, บก.ทท.2, การท่าอากาศยานเชียงใหม่, จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พล.ต.ท.เฉลิมพล จินตรัตน์ ผทค., พล.ต.ต.พฤทธพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ดุลยเดชา อาชวะสมิตระกูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, พล.ต.ต.ฐากูร นิ่มสมบุญ ผบก.ทท.2, พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ตม.5, นางสาวพวงทอง โยธาใหญ่ ผู้อำนวยการกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่, จ.อ.รังสรรค์ มะสุริน ฝ่ายรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานเชียงใหม่ และ หน.สถานีตำรวจ, รอง ผกก.ป.สภ.ฯ ในสังกัด ภ.จว.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง รวมกว่า 250 นายเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ภ.จว.เชียงใหม่

...

ทั้งนี้ ที่ประชุม ผบช.ภ.5 ได้กำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ให้ตามแนวทางนโยบายของนายกรัฐมนตรี ดังนี้ ในเรื่องของพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ให้การท่าอากาศยานเชียงใหม่ และตรวจคนเข้าเมือง ในการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอตามแผนการบิน (FLIGHT PLAN) และตามตารางการบิน (Flight Schedule) เพื่อมิให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามารอคิวนานเกินความจำเป็น และประสานตำรวจท่องเที่ยว, กลุ่มงานจราจรเชียงใหม่ ในการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลนักท่องเที่ยวที่สนามบิน และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยไม่ให้มีปัญหาการคับคั่งทางการจราจร และการนำนักท่องเที่ยวจำนวนมากออกจากสนามบิน

ในเรื่องความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ในประเด็นนี้ พล.ต.ท.ปิยะ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการทั้งด้านข้อมูล กำลังพล กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำข้อมูลพื้นฐาน IPB จุดเสี่ยง จุดล่อแหลม แผนเผชิญเหตุ ความถี่ในการออกตรวจในจุดที่สุ่มเสี่ยง จัดระเบียบสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ร้านค้า เพื่อป้องกันการหลอกลวง การให้บริการที่ไม่มีคุณภาพกับนักท่องเที่ยว และให้ศูนย์ 191 ประสาน 1155 ของ บก.ทท. รับเรื่องแจ้งเหตุตลอดจนส่งเหตุให้กับท้องที่เข้าช่วยเหลือด้วยความรวดเร็ว นอกจากนี้การทำงานร่วมกันกับตำรวจท่องเที่ยวให้ทุกสถานีตำรวจประสานในการสนับสนุน บก.ทท.2 ในการดูแลนักท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยึดหลัก “ทำคนน้อยให้เป็นคนมาก” 

ผบช.ภ.5 กล่าวต่อว่า ด้านมาตรฐานการท่องเที่ยวให้ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแต่ละแห่ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ออกตรวจตราความปลอดภัย ออกประชาสัมพันธ์จุดที่อาจเกิดอุบัติเหตุจากการเดินทางบก ทางน้ำ ตลอดจนขอความร่วมมือกับสถานประกอบการประเภทเครื่องเล่นผาดโผนต่างๆ ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ให้ปลอดภัยพร้อมใช้งานอยู่เสมอ, ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำข้อมูลพื้นฐาน เช่น สถานประกอบการ, สถานที่ท่องเที่ยว, สถานีขนส่ง, ห้างสรรพสินค้า, ร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านขายของที่ระลึก ให้เป็นปัจจุบัน และแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างหน่วยงาน

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เพื่อยกระดับมาตรฐาน และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว ให้ตำรวจท่องเที่ยว, การท่องเที่ยวภาคเหนือ, จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดอื่นๆ กระตุ้นเตือนสถานประกอบการ, สถานที่ท่องเที่ยว, โรงแรม, ร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านขายของที่ระลึก ให้ยกระดับการให้บริการ และสร้างมาตรฐานการบริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นอีกส่วนหนึ่งด้วย ในด้านความมั่นคงให้หน่วยต่างๆ คอยสอดส่องเพิ่มความเข้มในการติดตามผู้ที่อาจถือช่วงโอกาสนี้เข้ามาก่อเหตุร้าย เช่น กลุ่มคนร้ายข้ามชาติ แก๊งอาชญากรรม และบุคคลที่มีหมายจับ โดย บก.ตม.5, บก.ทท.2, บก.สส.ภ.5 และ ภ.จว.เชียงใหม่ ประสานกับ INTERPOL และสันติบาล อย่างใกล้ชิด ตลอดจนการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การตรวจจับใบหน้า Face Recognition, ระบบสารสนเทศสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (PIBICS) เป็นต้น

...

ผบช.ภ.5 กล่าวด้วยว่า ตำรวจภูธรภาค 5 มีความพร้อมที่จะดูแลให้ความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ภาค 5 ในช่วงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล ขอให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้ให้ความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจภูธรภาค 5.