เจ๊เกียว แม่ค้าหมูปิ้ง ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี บ่นอุบข้าวเหนียวขึ้นราคาอีกกระสอบละ 300 ต้องทนแบกต้นทุนไว้หากจะขึ้นราคาลูกค้าหนีแน่ วอนรัฐบาลใหม่ที่เพิ่งจัดตั้งเร่งแก้ไขปัญหาด่วน
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี ในช่วงเช้าพอเดินเข้าไปก็จะเจอร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งเจ๊เกียว ที่เป็นอาหารเช้ายอดฮิตเลยก็ว่าได้ เพราะบรรดาแม่บ้านต้องซื้อไปฝากลูกหลานที่จะไปโรงเรียนในช่วงเช้าหรือซื้อไปกินเป็นอาหารเช้ากับกาแฟ ซึ่งร้านเจ๊เกียวนั้นขายมากว่า 10 ปีแล้วคู่กับตลาดแห่งนี้
เจ๊เกียว เจ้าของร้าน กล่าวว่า ขณะนี้ ข้าวเหนียวที่ซื้อมานึ่งขายนั้นแพงขึ้นมาก จากกระสอบที่บรรจุ 49 กิโลกรัม เดิมที 1,200 บาท พอไปซื้ออีกทีกับร้านขายข้าวสารต้องตกใจ เพราะขึ้นมาถึงกระสอบละ 1,550 บาท แล้ว โดยราคาขึ้นไปกว่า 300 บาทเลยทีเดียว ตอนนี้จำต้องแบกต้นทุนไว้ เพราะขายข้าวเหนียวห่อละ 5 บาท มานานแล้ว หากจะขอขึ้นราคาก็เกรงว่าลูกค้าจะหนีอย่างแน่นอน
...
เจ๊เกียว เจ้าของร้าน กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 8 เดือนที่แล้วก็โดนผลกระทบหมูขึ้นราคา จากเดิมกิโลกรัมละ 160 บาท ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 220 บาท แล้วก็ขอขึ้นราคาขายหมูปิ้งขึ้นมาเป็น 6 บาท จากเดิมที่ขายไม้ละ 5 บาท จะมาขึ้นราคาข้าวเหนียวที่หุงมาขายอีกก็จะไม่ดีเพราะลูกค้าส่วนใหญ่มาซื้อกันเป็นประจำ และเป็นคนที่คุ้นเคยกันดีจึงยอมจำทน แบกภาระดังกล่าวไว้เอง
ขณะเดียวกันแม่ค้าหมูปิ้ง กล่าวด้วยว่า ตอนที่ไปซื้อข้าวเหนียวได้ถามกับร้านขายข้าวสารว่า เพราะอะไรข้าวเหนียวถึงขึ้นราคาขนาดนี้ ทางร้านขายบอกว่าเป็นเพราะชาวนานั้นประสบกับปัญหาแล้ง ทำให้ทำนาก็ต้องเพิ่มต้นทุนมาก ทั้งในการสูบน้ำก็น้ำมันแพงขึ้น รวมถึงยาปราบศัตรูพืชที่ใส่ข้าว และปุ๋ยเคมีก็ขึ้นราคามากนั่นเอง
ทางเจ๊เกียว กล่าวด้วยว่า อยากให้รัฐบาลที่เพิ่งจัดตั้งได้ใหม่เมื่อวานนี้ เร่งเข้ามาแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนที่ถูกผลกระทบในตอนนี้มากกว่าเรื่องอื่น ก่อนที่ของจะแพงขึ้นมากกว่านี้อีก ซึ่งทั้งร้านขายและประชาชนต่างก็อยู่ในสถานะลำบากเหมือนกันในตอนนี้ หากไม่เห็นอกเห็นใจกัน ขึ้นราคาเพิ่มขึ้นคนซื้อก็จะค่อยหายไปอย่างแน่นอน แล้วหันไปกินหรือซื้ออย่างอื่นที่ถูกกว่านี้.