ปธ.สภาอุตสาหกรรมขอนแก่น วอนรัฐบาลใหม่เร่งเบิกจ่ายงบปี 67 เป็นงบลงทุนก้อนใหญ่ที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี แนะสำรวจรายจังหวัดศึกษาจุดเด่น จุดด้อย ก่อน เพื่อทำนโยบายให้สอดคล้องกัน

เมื่อวานนี้ (3 ก.ค. 2566) นายทวีสันต์ วิชัยวงษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ ความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกับการประชุมร่วม 8 พรรค ที่หลายฝ่ายติดตามความคืบหน้าต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ในภาคอุตสาหกรรม ยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่นั้นเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการจัดทำร่างงบประมาณ 2567 และมีผลบังคับใช้และเบิกจ่ายให้ได้ไม่เกินเดือน มี.ค. 2567 เพราะงบลงทุนของรัฐ ถือเป็นงบประมาณก้อนใหญ่ที่กระตุ้นภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศได้ ขณะที่แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่พรรคก้าวไกลระบุไว้ในแผนโรดแมป 100 วัน ขอให้มีการประสานงานร่วมพื้นที่ ซึ่งขอนแก่น พร้อมเสนอตัวเองเป็นพื้นที่ศึกษาและพื้นที่ของการปฏิบัติร่วมกันระหว่างภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมและรัฐบาล โดยขอให้ภาครัฐนั้นวิเคราะห์และรับฟังพื้นที่ด้วย เพราะแต่ละจังหวัดนั้นมีบริบทที่แตกต่างกัน

“ยอมรับว่าทุกคนสวมเสื้อไม่พอดีตัว ดังนั้นนโยบายที่จะออกมาของรัฐบาลชุดใหม่ในด้านการค้าและการลงทุน ขอให้ศึกษาและออกระเบียบที่สอดรับ และสอดคล้องกับแต่ละจังหวัด เพราะบางนโยบายอาจจะเป็นภาพใหญ่เกินไปและไม่สามารถทำได้ทุกจังหวัด ดังนั้นการศึกษาข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลแบบรายจังหวัดหรือรายกลุ่มจังหวัด ซึ่งทุกจังหวัดมี กรอ. และ กกร.อยู่แล้ว ข้อมูลดังกล่าวนี้นั้นชัดเจนว่าแต่ละจังหวัดนั้นต้องการอะไร และอะไรคือจุดเด่น จุดด้อยและโอกาสที่แต่ละจังหวัดได้เสนอตัวขึ้นมา” ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น กล่าว

นายทวีสันต์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ นักลงทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศจับตามองรัฐบาลชุดใหม่ของไทยอย่างมากว่าจะออกมาในรูปแบบใด ทำให้ขณะนี้การลงทุนนั้นชะลอตัวลงชัดเจน ซึ่งการตั้งรัฐบาล แม้จะตั้งได้ จะอยู่ได้นานหรือไม่ หรือใครจะมาเป็นรัฐบาล ทั้งหมดเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะส่งผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน ขณะที่การประกาศขึ้นค่าแรง 450 บาทก็เป็นตัวแปรที่สำคัญ เพราะยังคงไม่มีนโยบายใดๆ ที่จะออกมารองรับหรือช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ชัดเจน  โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ที่สายป่านไม่ยาว ยังคงรอความหวังและความชัดเจนที่รัฐบาลชุดใหม่จะออกมาในรูปแบบใด.

...