ในเวทีดีเบต ที่อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช สมัชชาสวนยางยั่งยืน เสนอพรรคการเมือง นำนโยบายยางพารา มากำหนดเป็นเงื่อนไขการร่วมรัฐบาล
วันที่ 2 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาและขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบายสาธารณะด้านยุทธศาสตร์ยางพาราอย่างยั่งยืน พร้อมเวทีดีเบตนโยบายยางพารา มีตัวแทนผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคการเมืองต่างๆ อาทิ พรรคไทยสมาร์ท, พลังประชารัฐ, ประชาธิปัตย์, ภูมิใจไทย และก้าวไกล ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางจากภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก ตะวันตก และภาคใต้ นักวิชาการ เครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน พร้อมกรรมการ รองผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และเจ้าหน้าที่ กยท. เข้าร่วม ซึ่งในการสัมมนาครั้งนี้
นายบุญส่ง นับทอง ประธานกรรมการเครือข่ายภาคีสมัชชาสวนยางยั่งยืน เปิดเผยว่า การสัมมนาครั้งนี้ เราก็มีประเด็นที่ร่วมกันคิดวิเคราะห์ที่ตกผลึกในหลายประเด็น ที่นำเสนอผู้สมัครจากพรรคการเมืองต่างๆ ที่เข้าร่วมการดีเบตในวันนี้
โดยเครือข่ายต้องการให้เกิดนโยบายการทำสวนยางอย่างยั่งยืน เพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรทั้งประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ซึ่งจะไปเกี่ยวข้องกับกฎหายของ EU หรือ Trade War ที่จะมีผลบังคับใช้ในอีก 17-18 เดือน ข้างหน้า ซึ่งหลายฝ่ายได้รับทราบกันแล้ว และจะนำไปสู่การแก้ไข
นอกจากกรณีดังกล่าวแล้ว เรื่องสำคัญคือ การแก้ปัญหาราคายางพาราที่ยั่งยืน ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงการส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศ และการส่งเสริมสวนยางยั่งยืนที่เป็นรูปธรรม
นายบุญส่ง กล่าวด้วยว่า เราต้องการให้รัฐบาลต่อไปกำหนดนโยบายเร่งด่วนที่บรรจุในแผนระยะสั้น 3 เดือนในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับยางพารา และวันนี้ได้ขอให้ตัวแทนพรรคการเมืองที่มาร่วมดีเบตรับเป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล รวมถึงมีข้อตกลงกับสมัชชาเครือข่ายที่มีตัวแทนจากพี่น้องทั่วประเทศ
...
ขณะเดียวกัน นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าฯ กยท. ได้เชิญชวนนายสินธพ อินทรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมเครือข่ายนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ร่วมขับเคลื่อนสวนยางยั่งยืนในพื้นที่ตำบลท่าข้าม ให้เป็นต้นแบบ ให้กับสวนยางพาราในพื้นที่อื่นๆ ด้วย โดยจะนัดพบปะพูดคุยกันถึงแนวทางการดำเนินการก่อนกลางเดือนพฤษภาคมนี้.