บุรีรัมย์พ่อค้าแม่ค้า บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เรียกร้องยกระดับช่องสายตะกูเป็นจุดผ่านแดนถาวรเหมือนกับที่อื่นๆ เชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น เผยหลายร้านต้องปิดชั่วคราวเพราะยอดขายน้อยไม่คุ้มทุน

เมื่อวันที่ 21 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อค้าแม่ค้าทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา เรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เร่งพิจารณายกระดับจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ราชอาณาจักรไทย และช่องจุ๊บโกกี อ.บันเตียอัมปึล จ.อุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา ให้เป็นด่านผ่านแดนถาวร เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั้งสองฝั่ง สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวและจับจ่ายซื้อสินค้า โดยไม่ต้องจำกัดเฉพาะคนในพื้นที่อำเภอบ้านกรวดเท่านั้น เชื่อว่าหากเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวร ก็จะส่งผลให้การค้าขายคึกคักมากกว่านี้ ก็จะส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้ามีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังค่อนข้างเงียบเหงา ทำให้พ่อค้าแม่ค้าฝั่งไทยต้องปิดร้านไปทำอาชีพอื่นชั่วคราว เพราะยอดขายน้อยไม่คุ้มต้นทุน

นางละม่อม ทวรรณเวช แม่ค้าฝั่งไทย กล่าวว่า ช่วงนี้การค้าขายที่ตลาดช่องสายตะกูเงียบเหงา เพราะเปิดให้เฉพาะคนอำเภอบ้านกรวดเข้าได้เท่านั้น ประชาชนก็จะเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่อาจจะไม่มีกำลังซื้อ ทำให้ขายได้เฉลี่ยวันละ 1-2 พันบาท จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้เร่งพิจารณายกระดับจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกูเป็นจุดผ่านแดนถาวร เหมือนกับด่านผ่านแดนจังหวัดอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนจากทุกจังหวัดสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวและข้ามไปซื้อสินค้าที่ช่องสายตะกูดังกล่าวได้ ก็เชื่อว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าได้เพิ่มมากขึ้นและสามารถอยู่รอดได้ เพราะช่วงที่เปิดจุดผ่อนปรนแรกๆ มีพ่อค้าแม่ค้ามาเปิดจำหน่ายสินค้าอุปโภคมากถึง 200 ร้าน แต่ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 20 ร้าน เพราะหลายคนขายไม่ได้จึงหยุดขายชั่วคราว

...

ด้าน นายลิม พ่อค้าชาวกัมพูชา บอกว่า ในฐานะที่ตนเป็นชาวกัมพูชาก็อยากให้ทางฝั่งไทยเปิดเป็นด่านผ่านแดนถาวร หรือเปิดเสรี ให้คนจากทุกจังหวัดสามารถเดินทางมาได้ เพราะทุกวันนี้ขายได้แค่วันละ 500-1,000 บาทเท่านั้น เพราะฝั่งไทยเปิดให้แค่คนในพื้นที่อำเภอบ้านกรวดเดินทางข้ามฝั่งได้เท่านั้น แต่ฝั่งกัมพูชาเปิดเสรีแล้วประชาชนจากทุกจังหวัดสามารถข้ามมาซื้อของได้แล้ว

ล่าสุดเมื่อวันที่ (15 ก.พ. 66) ที่ผ่านายแปน โกะซอล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมคณะส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดอุดรมีชัย ได้เดินทางมาพบปะพูดคุยหารือกับ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ที่ห้องประชุมนเรนทราทิตย์ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

พร้อมทั้งได้หารือแนวทางการยกระดับจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ราชอาณาจักรไทย-ช่องจุ๊บโกกี อ.บันเตียอัมปึล จ.อุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และแสวงหาความร่วมมือด้านอื่นๆ เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ แต่ขณะนี้ฝั่งไทยยังติดขัดด้วยข้อกฎหมายบางส่วน และพื้นที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่ามรดกโลก(ดงพญาเย็น-เขาใหญ่) ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการขั้นตอนขอเพิกถอนพื้นที่ และขอใช้พื้นที่ป่าไม้บางส่วน ตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

...

ปัจจุบันฝั่งไทยได้อนุญาตให้เฉพาะประชาชนอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่สามารถข้ามไปยังฝั่งจุ๊บโกกีได้ ส่วนฝั่งกัมพูชาอนุญาตให้ประชาชนทุกอำเภอ สามารถข้ามแดนมาติดต่อซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างได้ และทราบว่าฝั่งกัมพูชาได้ทำการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพร้อมยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวรแล้ว อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังเปิดให้ค้าขายกันสัปดาห์ละ 5 วัน คือ วันพุธถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ส่วนจะมีการยกระดับเป็นด่านผ่านแดนถาวรได้หรือไม่นั้น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องก็จะมีการหารือร่วมกันพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง.