เริ่มขนย้ายสารเคมี รง.วินโพรเสส แล้ว โดยจะนำกากอะลูมิเนียมดรอส 7,000 ตัน และกากตะกอนสารกัดแก้ว 400 ตัน ขึ้นรถบรรทุก เพื่อไปกำจัดที่โรงงานในชลบุรี โดยอุตสาหกรรม จ.ระยอง กำชับให้ใช้ความระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะมีความร้อนอยู่ใต้กองอะลูมิเนียม จะต้องมีการประเมินสถานการณ์ทุกระยะ

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีไฟไหม้โรงงานวินโพรเสส ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งวันนี้จะมีการเริ่มขนกากอะลูมิเนียมดรอส 7,000 ตัน ที่อยู่ในโกดัง 3 และกากตะกอนสารกัดแก้ว 400 ตัน อยู่ด้านข้างโกดัง 2 โดยเจ้าหน้าที่จากบริษัทรับกำจัดกากสารเคมี จำนวน 8 คน พร้อมด้วยรถบรรทุก ขนาดบรรทุก 13 ตัน จำนวน 3 คัน พร้อมอุปกรณ์ ถุงบิ๊กแบ็ก และผ้าใบสำหรับคลุมรถ เพื่อทำการขนย้ายกากอะลูมิเดียมดรอส ไปกำจัดที่โรงงานจังหวัดชลบุรี ระยะทาง 90 กม. 

โดย อบจ.ระยอง ได้นำรถแบ็กโฮสนับสนุนการตักกองอะลูมิเนียมดรอส ใส่รถบรรทุกของบริษัทรับเหมาด้วย ขณะที่การขนกากตะกอนสารกัดแก้ว ที่อยู่บริเวณข้างโกดัง 2 เจ้าหน้าที่บริษัทรับเหมาอีกบริษัทได้ใช้รถแบ็กโฮ เร่งยกถุงบิ๊กแบ็กกากตะกอนสารกัดแก้วใส่รถพ่วง ก่อนจะมีการคลุมผ้าใบให้มิดชิด นำไปกำจัดที่โรงปูน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี 

...

นายโกเมน ผิวพุ่ม ผู้ช่วยอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง กล่าวว่า เบื้องต้นจะเริ่มเคลียร์ถุงบิ๊กแบ็กที่บรรจุอะลูมิเนียมดรอสที่ไฟไม่ไหม้ที่อยู่บริเวณกองอะลูมิเนียมดรอสออกไปเป็นลำดับแรก ก่อนที่จะให้รถแบ็กโฮตักกองอะลูมิเนียมดรอสใส่รถบรรทุก อย่างไรก็ตาม ต้องดูงานอีกครั้งว่าจะตักกองอะลูมิเนียมดอส หรือถุงบิ๊กแบ็กก่อน แต่ได้กำชับให้มีความระมัดระวังในขณะที่ตักและเกลี่ยกองอะลูมิเนียมดรอสที่ถูกไฟไหม้กองสูงถึงหลังคา เกรงว่าจะมีความร้อนอยู่ใต้กองอะลูมิเนียมดรอส ขอให้ประเมินการทำงานทุกระยะ และระวังโครงสร้างหลังคาจะถล่มลงมาด้วย

โดยรถลอตแรกขนกากอะลูมิเดียมดรอส ออกจากโรงงานมุ่งหน้าโรงงาน จ.ชลบุรี 3 คัน คันละ 14 ตัน ส่วนรถขนกากสารกัดแก้ว ไปโรงปูนแก่งคอย ใช้รถพ่วงขนไปจำนวน 30 ถุงบิ๊กแบ็ก ประมาณ 20 ตัน.