โจรใจบาป บุกวัดเขาโบสถ์ จ.ระยอง ฉกพระพุทธรูป ตัดเศียร-แขน เอาแต่ส่วนที่เป็นทองเหลือง ไม่หนำใจยังงัดเอาบานประตูแกะสลักอายุร่วม 100 ปี ไปด้วยทั้ง 4 บาน ตำรวจเตรียมตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาเบาะแสลากคอคนร้าย เผยดูจากพฤติกรรม พุ่งเป้าคนเก็บของเก่า

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 พ.ย. 66 ร.ต.ต.สหัสนัยน์ ชัยยะพลากร ร้อยเวร สภ.เมืองระยอง รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกตัดเศียรและแขนพระพุทธรูปทองเหลือง แล้วขโมยไปพร้อมกับประตูเจดีย์ ซึ่งเป็นไม้แกะสลักเก่าแก่ อายุร่วม 100 ปี เหตุเกิดบนยอดเขาจุดชมวิว ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเก่าแก่ วัดเขาโบสถ์ ม.7 ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ จ.ระยอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน

ที่เกิดเหตุอยู่บนยอดเขา เป็นสถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท โดยมีเจดีย์สร้างครอบไว้ นอกจากนี้ยังมีศาลาอีก 2 หลัง ที่มีพระพุทธรูปให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้ขอพร ภายในศาลาข้างลานจอดรถพบเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ เป็นปูนปั้น 1 องค์ และทองเหลือง 2 องค์ หน้าตักกว้าง 120 เซนติเมตร 1 องค์ และหน้าตักกว้าง 100 เซนติเมตร 1 องค์ โดยพระพุทธรูปทั้ง 2 องค์ แขนด้านขวาถูกตัดหายไป นอกจากนี้ภายในศาลาใกล้กันยังพบ พระพุทธรูปทองเหลืองอีก 1 องค์ ถูกตัดเศียรซึ่งเป็นปูนปั้นทิ้งไว้ แล้วยกส่วนลำตัวที่เป็นทองเหลืองไปทั้งองค์ ส่วนภายในเจดีย์ที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทเก่าแก่ คนร้ายได้งัดเอาบานประตูไม้แกะสลักไปทั้ง 4 บาน

...

จากการสอบถาม นายสุรพล วงศ์มาก อายุ 50 ปี กรรมการหมู่บ้านในพื้นที่ เล่าว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวระยองให้ความนับถือ มักจะขึ้นมาขอพรกัน อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองระยอง ตนเป็นผู้ดูแลเมื่อขึ้นมาตรวจสอบพบว่า พระพุทธรูปถูกขโมยและทำลายจึงรีบแจ้งเจ้าอาวาสวัดให้ทราบ และ เข้าแจ้งความ สำหรับพระพุทธรูปที่คนร้ายมาตัดเศียรและแขนไปนั้น เป็นพระพุทธรูปที่มีอายุร่วม 100 ปี เช่นเดียวกับประตูไม้แกะสลัก ซึ่งนับเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรมเลย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผ่านเข้าออกตลอดทั้งสาย เพื่อหาเบาะแสคนร้าย ซึ่งดูจากพฤติกรรมของคนร้ายแล้วนั้น ที่เอาไปแต่ส่วนที่เป็นทองเหลือง จึงพุ่งเป้าไปที่คนเก็บของเก่า เตรียมตรวจสอบตามแหล่งรับซื้อของเก่าในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อหาเบาะแสจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป