ผลการประชุมเตรียมความพร้อมการส่งออกลำไยจันทบุรี ปี 2566/2567 มีการวางแนวทางเข้มงวดในการตรวจสอบศัตรูพืชในโรงคัดบรรจุ ผู้ประกอบการต้องเข้มงวดในการตรวจสอบและกำจัดศัตรูพืชในโรงคัดบรรจุของตนเอง โดยเฉพาะโรงคัดบรรจุที่ได้รับการแจ้งเตือนจากสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบศัตรูพืชที่ผ่านการอบรมจากกรมวิชาการเกษตร ต้องมีการตรวจสอบศัตรูพืชก่อนรับสินค้าเข้าโรงคัดบรรจุ ตรวจสอบระหว่างคัดเกรด และก่อนขึ้นตู้คอนเทนเนอร์

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดการตรวจสอบศัตรูพืชตามปริมาณที่พบพร้อมจัดเกรด เป็นสองสี แดง และเขียว หากพบศัตรูพืชมากจัดเป็นล้งสีแดง จะเข้มงวดในการตรวจศัตรูพืช...กรณีที่ ทางล้งจัดการตรวจสอบศัตรูพืชได้ดี จะให้สีเขียว และคลายความเข้มงวดลง ทำให้ผู้ประกอบการสามารถส่งออกได้รวดเร็วขึ้น

สำหรับการขึ้นทะเบียนสายเก็บในปีนี้ จะให้ขึ้นทะเบียนกับหัวหน้าสายและเจ้าของรถเก็บเท่านั้น...ไม่ขึ้นทะเบียนแรงงานสายเก็บ

ปัญหาด้านศัตรูพืชกักกัน ได้ประชาสัมพันธ์ให้โรงคัดบรรจุสายเก็บทราบและให้ความระมัดระวังไม่ซื้อผลผลิตที่มีเพลี้ยแป้ง ราดำ ปัญหาเรื่องสารพิษตกค้าง ได้ขอความร่วมมือกับสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 (สวพ.6) จัดวิทยากรและฝึกอบรมกับเกษตรกรด้วย

ด้านความปลอดภัยของผู้บริโภคปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และสารพิษตกค้าง ได้สร้างความตระหนักให้กับผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่เพิ่มการสุ่มตรวจและแจ้งเตือนในกรณีพบดำเนินการไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ผลจากการประชุมในครั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกภาคส่วนจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สร้างเชื่อมั่นลำไยไทย ลำไยคุณภาพเป็นที่ต้องการของต่างประเทศ เกษตรกรสามารถจำหน่ายลำไยได้ราคาดี ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวมของจังหวัดจันทบุรีและประเทศไทยต่อไป

...

สำหรับผลผลิตลำไยจังหวัดจันทบุรีในปีนี้มีแนวโน้มลดลง เหลือเพียงไม่เกิน 220,000 ตัน เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง และหากฝนทิ้งช่วงในช่วงติดผลหรือใกล้เก็บเกี่ยว จะทำให้ลำไยได้รับความเสียหาย ด้านราคามีแนวโน้มดี แต่เกษตรกรได้ทำสัญญาซื้อขายกับล้งไปแล้ว.

สะ-เล-เต

คลิกอ่านคอลัมน์ "หน้ามองฟ้า เท้าหยั่งดิน" เพิ่มเติม