ทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา แลนด์มาร์กใหม่อีกมุมชีวิต

ผู้ทำผิดที่ได้รับโทษหากรับโทษแล้ว จะทำยังไงไม่ให้กลับไปสู่วังวนเดิมอีก กำลังใจและโอกาสจากคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญ บวกกับความตั้งใจนำวิชาที่ได้จากคุกมาเลี้ยงดูตนและครอบครัว สามารถเดินต่อในโลกภายนอกได้

ทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เป็น 1 ใน 5 ทัณฑสถานเปิดทั่วประเทศของ กรมราชทัณฑ์ คอยฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขังหรือเหล่านักโทษชั้นดี ที่รอการปล่อยตัวก่อนกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว

นายธิตินัย พาติกบุตร ผู้อำนวยการทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา เปิดเผยว่า เข้ามารับตำแหน่งไม่ถึง 1 ปี พยายามหยิบยื่นและหาโอกาสให้กับผู้ต้องขังให้มีอาชีพมีความพร้อมติดตัวให้มากที่สุด ก่อนออกไปสู่สังคมภายนอก และที่สำคัญบุคคลเหล่านี้ต้องไม่หวนคืนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก

นอกจากนี้ เร่งพัฒนาปรับปรุงพื้นที่โดยรอบจนเป็นแลนด์มาร์กสำหรับพักผ่อนท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการเรียนรู้ รวมถึงส่งเสริมให้เกิดฝึกทักษะอาชีพในด้านต่างๆให้ผู้ต้องขัง ภายใต้ กองงานเบญจาภิรมย์ เช่น หับเผย คาเฟ่ @ทุ่งเบญจา เปิดร้านให้บริการแบบครบวงจร กาแฟ, เบเกอรี, อาหารไทย, อาหารญี่ปุ่น และมีของฝากของที่ระลึกจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว มีเงินปันผลให้ผู้ต้องขังทุกเดือนจากการเปิดร้านและจำหน่ายสินค้า

“อีกทั้งฝึกอาชีพทำการเกษตร ทำสวนผลไม้ การเลี้ยงสัตว์ วิชาชีพมวยไทย วิชาชีพร้องเพลงประสานเสียง ดนตรีสากล และวิชาชีพช่างในสาขาต่างๆ โดยเฉพาะช่วงฤดูผลไม้นำผู้ต้องขังช่วยเหลือผู้ประกอบการล้งคัดแยกผลไม้ส่งออก เป็นการสร้างประสบการณ์และได้ค่าแรง ที่ผ่านมาได้รับโอกาสเข้าทำงานหลังพ้นโทษอีกด้วย”

นายธิตินัย กล่าวต่อว่า ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน โดยเฉพาะ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ให้ความเมตตาหยิบยื่นความช่วยเหลือมาโดยตลอด

นอกเหนือการนำหลักธรรมาขัดเกลาชีวิตให้กับผู้ต้องขัง ยังสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ผู้ต้องขังนำไปใช้ภายหลังพ้นโทษ

ด้าน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า ผู้กระทำผิดต้องรับโทษแต่ต้องขัดเกลาจิตใจไม่ให้กลับไปทำผิดอีก จัดโครงการ “กลับตัว กลับใจ ทำดีเข้าไว้” พร้อมทำ MOU ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ

เพื่อให้ความรู้ สร้างอาชีพผู้ต้องขังทั่วประเทศก่อนกลับคืนสู่อิสรภาพ สามารถไปดูแลครอบครัวได้ในอนาคต

หลวงพี่น้ำฝน ได้ประพันธ์บทเพลง “ชาตินี้ก็รู้กัน” มีเนื้อหาทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มีศิลปินชื่อดัง พลพล พลกองเส็ง ขับร้องคนแรก และฝึกสอนการขับร้องประสานเสียง พร้อมบันทึกเทปนำไปเผยแพร่ให้กับผู้ต้องขังทั่วประเทศ ถือเป็นการขัดเกลาให้กำลังใจ คืนคนดีสู่สังคม

นายละ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี หนึ่งในผู้ต้องขัง เปิดเผยว่า หลงทำผิดต้องโทษอยู่ในเรือนจำ เหลือโทษจำคุกอีก 5 ปี ถูกย้ายมาทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา กระทั่งได้รับการฝึกอาชีพอาหารญี่ปุ่น จนเป็นเชฟมือหนึ่งและได้รับโอกาสเปิดร้านซูชิ ซาชิมิ ภายในทัณฑสถานฯ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอุดหนุน ส่วนใหญ่ตกใจไม่เคยเห็นนักโทษทำซูชิ

“ผู้ที่มาอุดหนุนเข้ามาทักทายส่งรอยยิ้มให้กำลังใจแถมชื่นชมในฝีมือ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นยาชโลมใจได้เป็นอย่างดี ได้ทั้งความรู้และเงินปันผล หลายคนเมื่อพ้นโทษนำวิชาไปประกอบอาชีพจนประสบความสำเร็จหลายราย”

ปัจจุบัน ทัณฑสถานเปิดทุ่งเบญจา รอโอกาส และกำลังใจจากคนทั่วไปจะหยิบยื่นให้ เพื่อเติมเต็มความมั่นใจให้กับผู้ต้องขังที่ใกล้วันจะได้ออกไปใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุขในสังคมภายนอกโดยไม่หวาดกลัว

เกราะป้องกันการทำผิดซ้ำคือ “กำลังใจ” และ โอกาสจากคนรอบข้าง

หากใครมีโอกาสเดินทางมาเที่ยวที่ จ.จันทบุรี สามารถมาเยี่ยมเยือนทัณฑสถานเปิดมีชีวิตแห่งนี้ได้ เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กที่ตอบโจทย์ครบจบในที่เดียว

แถมยังรองรับนักท่องเที่ยว หมู่คณะ หน่วยงานต่างๆ ด้วยห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยงไว้บริการครบครัน

นี่คือตัวอย่างความตั้งใจ เพื่อให้ชีวิตใหม่แก่ผู้ก้าวพลาด.

ศุภชัย จุลละนันนท์