อดีตจ่าทหารเรือขับรถเก๋งตกคูน้ำ ต.โคกปีบ จ.ปราจีนบุรี ทำให้จมน้ำเสียชีวิตอยู่ภายในรถ ขณะที่ภรรยาคาดสามีอาจสังสรรค์กับเพื่อนมาและเลี้ยวผิดจนตกคู
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 16 พ.ค. 2566 ร.ต.อ.วรากร สายแวว ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากทางหน่วยกู้ภัยสมาคมร่วมใจปราจีนบุรีว่า มีเหตุรถยนต์เก๋งตกลงไปภายในคลองน้ำและมีผู้เสียชีวิตติดในรถ เกิดเหตุอยู่บริเวณถนนเลียบคูเมือง หมู่ที่ 2 ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี
หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่าชาวบ้านอยู่ในที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก จากการสอบถามนาย ประวุฒิ มุกแท้อายุ 26 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ตลอดได้ความว่า ตนเองได้ขับรถมาจอดตรงจุดเกิดเหตุเพื่อรอรับแฟนที่ทำงานในโรงงานที่กำลังจะออกกะมา ก็เห็นรถยนต์เก๋งที่ประสบเหตุ ขับมาจากเส้นทางเทศบาลโคกปีบ เป็นถนนเส้นรอบคูเมือง แล้วจู่ๆ รถเก๋งก็หักเลี้ยวซ้ายและไหลลงไปในคูน้ำเมือง ที่มีความลึกประมาณ 3 เมตรเศษ จึงได้รีบวิ่งตะโกนเรียกชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงให้เข้ามาช่วย ก่อนกระโดดลงไปในคลองเพื่อช่วยเหลือ แต่เนื่องจากน้ำมีความลึกจึงช่วยผู้ขับขี่ออกมาไม่ได้
ต่อมาทางหน่วยกู้ภัยพร้อมชุดประดาน้ำ เดินทางมาทำการงมหาร่างคนขับ ทราบชื่อคือนาย ประเสริฐ เชาว์เจริญ อายุ 57 ปี อยู่ตำบลโคกปีบ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี พบว่าร่างติดอยู่ในรถยนต์เก๋งบริเวณพวงมาลัยคนขับ จึงเปิดประตูรถออกก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำได้ เพื่อให้ทางแพทย์และเจ้าหน้าที่ตรวจร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งในเบื้องต้นไม่พบบาดแผลแต่อย่างใด ก่อนเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจะนำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลศรีมโหสถ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นหน่วยกู้ภัยจึงช่วยกันดึงรถยนต์เก๋ง โตโยต้า สีบรอนซ์-เทา ทะเบียน กค 3796 ปราจีนบุรี ขึ้นจากคูน้ำเพื่อไปเก็บรักษาที่ สภ.ต่อไป
...
ด้านนางอุบล เชาว์เจริญ อายุ 54 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า สามีออกจากบ้านเมื่อประมาณ 16.00น. เพื่อไปซ้อมกีฬา และมาทราบอีกทีจากทางหน่วยกู้ภัยว่าสามีขับรถตกลงไปในคูน้ำคาดว่าน่าจะเสียชีวิต และยังบอกด้วยว่าสามีเป็นคนชอบดื่มสุราช่วงตอนเย็นเป็นประจำ คาดว่าหลังจากเลิกซ้อมกีฬาแล้ว คงจะแวะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ก่อนจะขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุคาดว่าสามีคงจะจำทางเลี้ยวผิด พอหักหัวรถเลี้ยวรถก็เลยไหลลงคูน้ำทำให้รถจมน้ำ และทำให้เสียชีวิตดังกล่าว