"ศุลกากรแหลมฉบัง" คุมเข้มปกป้องสังคม เร่งจับ เร่งทำลาย "สินค้าไม่พึงปรารถนา" พร้อมเปิด Line Official แจ้งเบาะแสมีสิทธิ์รับรางวัลนำจับเมื่อคดีสิ้นสุด

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 นายสุรเดช ตรงศิริวิบูลย์ ผอ.สนง.ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่าตามที่กรมฯ มีนโยบายในการอำนวยความสะดวกทางการค้าควบคู่กับการควบคุมทางศุลกากรนั้น สนง.ศุลกากรแหลมฉบัง ได้ใช้หลักบริหารความเสี่ยงมาใช้ในการตรวจสอบสินค้า โดยระบบการทำงานของศุลกากรด้วยระบบคอมพิวเตอร์จะมีรูปแบบทั้ง ยกเว้นการตรวจ Green Line, เปิดตรวจ Red Line, พบพนักงานศุลกากรเนื่องจากได้รับยกเว้นใบอนุญาต Yellow Line ซึ่งล้วนเป็นหลักการทำงานตามหลักสากล

นายสุรเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่มีข่าวมีสินค้าประเภทหมู ลักลอบนำเข้าทางท่าเรือแหลมฉบังนั้น โดยสถานการณ์ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ราคาหมูในประเทศปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงอาจทำให้มีบ้างที่คนบางกลุ่มที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนฉวยโอกาสลักลอบนำเข้าสินค้าหมูเข้ามาโดยไม่เห็นแก่ความปลอดภัยของผู้บริโภค

ทางด้านนายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ ผอ.ส่วนควบคุมทางศุลกากร ในฐานะที่กำกับดูแลด้านการปราบปราม กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาทางศุลกากรแหลมฉบัง ได้มีมาตรการป้องกันปราบปรามและกดดันในการสกัดกั้นไม่ให้สินค้าดังกล่าวออกสู่ท้องตลาดอย่างเต็มที่ จนขณะนี้ปรากฏเป็นข่าวว่ามีสินค้าประเภทหมู ตกค้างอยู่ในท่าเรือฯ เป็นจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดเพราะความเข้มงวดกวดขันจึงทำให้สินค้าเหล่านี้ไม่สามารถเล็ดลอดออกไปได้ และตอนนี้กำลังเข้าสู่กระบวนการส่งมอบให้กรมปศุสัตว์เพื่อนำไปทำลายตามกฎหมายและสุขอนามัยต่อไป

“การปฏิบัติงานของศุลกากรแหลมฉบัง ได้ให้ความสำคัญกับสินค้าทุกชนิดทั้ง ยาเสพติด สารตั้งต้นฯ และสินค้าที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ตลอดจนสินค้าที่เป็นพัสดุจากต่างประเทศทางไปรษณีย์ ซึ่งที่ผ่านได้มีการจับกุมสินค้าเหล่านี้อย่างต่อเนื่องและเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้เรายังเปิดช่องทางสื่อสารใหม่ทาง Line Official : https://lin.ee/t0h9NA5 โดยสามารถแจ้งเบาะแสการลักลอบหนีศุลกากร ซึ่งเมื่อคดีสิ้นสุดก็จะมีสิทธิ์ได้รับรางวัลนำจับอีกด้วย” นายประสิทธิ์กล่าวทิ้งท้าย

...