สโมสรชลบุรี เอฟซี เพิ่มบทลงโทษยกเลิกสัญญา “แบงค์-วรวุฒิ สุขุนา” นายทวารเมาซิ่งชนคนตาย อนาคตดับวูบ “ศศิศ สิงห์โตทอง” ผู้จัดการทีม ยืดอกรับผิดชอบประกาศลาออกอีกคน อัดคลิปแถลงการณ์ขอโทษ แจงคืนเกิดเหตุไปนั่งเล่นกับน้องๆในทีมแต่เที่ยงคืนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน กระทั่งมาเกิดเหตุตอนตี 4 รีบมาดูที่เกิดเหตุ ที่นักบอลมีเรื่องกระทบกระทั่งกับตำรวจและกู้ภัยแค่เข้าใจผิดกัน “วิทยา คุณปลื้ม” ประธานสโมสร เร่งเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ มอบเงินช่วยค่าทำศพเบื้องต้น 1 แสนบาท ย้ำจุดยืนไม่ปกป้องคนทำผิด สั่งล้อมคอกทุกคนในสโมสรห้ามเกิดเหตุซ้ำรอยอีก ปัดบีบผู้จัดการทีมลาออก ไม่พบข้อมูลพานักเตะไปก๊งเหล้า ด้าน ผกก.สภ.เมืองชลบุรี เผยก่อนเกิดเหตุ “แบงค์-วรวุฒิ” ไปนั่งดื่มเหล้าที่หอพักเพื่อนรุ่นพี่มีผู้จัดการทีมร่วมอยู่ด้วย

ยังเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ โดยเฉพาะแฟนบอลที่ติดตามข่าวพฤติกรรมอื้อฉาวของนักฟุตบอลสโมสรชลบุรี เอฟซี ฉายาฉลามชล แบงค์-วรวุฒิ สุขุนา อายุ 23 ปี ผู้รักษาประตู เมาขับรถเก๋งพุ่งชนนางกัญญา พงษ์หัสบรรณ์ อายุ 62 ปี เสียชีวิตขณะเดินออกกำลังกายอยู่บนถนนสะพานใหม่เลียบชายทะเลตอนที่ 2 อ.เมืองชลบุรี เมื่อเวลาประมาณตี 4 วันที่ 26 ต.ค. ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายอีก 1 คน หลังเกิดเหตุนายเฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว นักฟุตบอลรุ่นพี่ทีมเดียวกันตามมาที่เกิดเหตุ พยายามกันตัวนายวรวุฒิออกไปจนมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจ แต่ภายหลังมีการขอโทษขอโพยกันทำให้ไม่มีเหตุบานปลาย ต่อมาสโมสรชลบุรี เอฟซี ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจ พร้อมสั่งลงโทษนายวรวุฒิด้วยการไม่ส่งลงสนามในศึกไทยลีกจนกว่าคดีจะสิ้นสุด และได้รับโทษตามกฎหมายรวมทั้งยังหักเงินเดือนด้วย เจ้าตัวร่ำไห้สำนึกผิดประกาศเลิกดื่มเหล้าตลอดชีวิต กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล มีบรรดาแฟนบอลเข้ามาแสดงความคิดเห็นไปต่างๆนานา หลายคนไม่พอใจนายวรวุฒิที่เป็นถึงนักฟุตบอลอาชีพกลับมีพฤติกรรมเมาแล้วขับจนไปชนคนตาย เรียกร้องให้สโมสรเพิ่มบทลงโทษด้วยการยกเลิกสัญญานักเตะ

...

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 26ต.ค. เพจเฟซบุ๊กของสโมสรชลบุรี เอฟซี “Chonburi Football Club” โพสต์คลิปนายศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีม กล่าวแถลงการณ์แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม โดยคลิปความยาวกว่า 4 นาที นายศศิศกล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจและขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิตแทนน้องในทีมที่ก่อปัญหานี้ขึ้น เหตุการณ์นี้ไม่มีใครอยากให้เกิด วันเกิดเหตุตนไปกับเหลิม (นายเฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว) 2 คนตอนหัวค่ำก่อน ไปนั่งเล่นกัน ได้ไปเจอน้องนักฟุตบอลในทีมและแบงค์ (นายวรวุฒิ สุขุนา) ด้วย พอประมาณเที่ยงคืนกว่าๆก็แยกย้ายกันกลับ ตนกับเหลิมกลับมานอนที่บ้านตน

นายศศิศกล่าวต่อไปว่า จนกระทั่งเวลา 04.06น.แบงค์โทรศัพท์มาหามีเสียงสั่น ร้องไห้ตกใจกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตนถามว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะพาเหลิมออกไปดูน้อง ยืนยันว่าไปถึงเวลาตี 4 นิดๆไม่ได้นั่งอยู่ด้วยกันทั้งคืน พอมาถึงที่เกิดเหตุเหลิมเดินเข้าไปหาแบงค์กลัวว่าจะเกิดอันตรายจากญาติของผู้เสียชีวิต ทำให้มีการปะทะคารมกันจนเป็นเรื่องบานปลายคิดว่าเหลิมจะพาแบงค์หนีนั้นเป็นการเข้าใจผิดกัน เพียงแต่จะพาออกจากตรงนั้นไปในที่คนน้อยเท่านั้น สำหรับผู้เสียชีวิตสโมสรชลบุรี เอฟซี จะดูแลค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ในส่วนของตนขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการยุติบทบาทการเป็นผู้จัดการทีมตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป

ขณะที่นายวิทยา คุณปลื้ม นายก อบจ.ชลบุรี ฐานะประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี เผยภายหลังไปร่วมพิธีรดน้ำศพผู้เสียชีวิตที่วัดเนินตามาก ต.โคกเพลาะ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในฐานะประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี ไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นการกระทำส่วนบุคคลแต่ส่งผลกระทบและความเสียหายต่อบุคคลอื่นและสโมสร พร้อมจะแสดงความรับผิดชอบเยียวยาผู้เสียชีวิตและดูแลด้านการรักษาแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นได้ช่วยค่าทำศพ 100,000 บาท และจะเข้าไปดูแลค่าใช้จ่ายเบื้องต้นของผู้ได้รับบาดเจ็บ ตนมีความสนิทสนมกับครอบครัวผู้เสียชีวิตมานานจึงมีความเสียใจเป็นอย่างมาก ยืนยันว่าจะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด พร้อมให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่และนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม ขอแสดงความเสียใจจากใจจริง

ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 27 ต.ค. นายวิทยา คุณปลื้ม เผยว่า หลังจากมีการหารือเพิ่มเติมกันของทีมผู้บริหารและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับข้อมูลหลักฐานที่นำมาพิจารณาเสริม จึงมีข้อสรุปเพิ่มเติมจากแถลงการณ์ฉบับแรก จากผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ที่ตั้งข้อหานายวรวุฒิ สุขุนา ว่า ขับขี่รถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัส จากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุถึงแม้จะมีการขอประกันตัวเพื่อไปให้การกับทนายและในชั้นศาล ซึ่งจากที่สโมสรได้แถลงบทลงโทษในฉบับแรกไปว่า “จะไม่ส่งนายวรวุฒิลงสนามในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก จนกว่าคดีจะสิ้นสุดและได้รับโทษตามกฎหมาย” จึงมีการพิจารณาบทลงโทษใหม่ โดยมีมติจากสโมสรชลบุรีเอฟซี จะทำการ “ยกเลิกสัญญา” ซึ่งมีผลทันที

ประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี เผยด้วยว่า ขอเน้นย้ำเรื่องการแสดงจุดยืนของสโมสรที่ไม่เห็นด้วยและยอมรับไม่ได้กับการกระทำของนายวรวุฒิ กรณีอุบัติเหตุที่มาจากการเมาแล้วขับรถชนจนทำให้มีผู้เสียชีวิต เนื่องจากเราเป็นสโมสรกีฬาฟุตบอลที่มีความมุ่งหวังจะทำให้คนชลบุรีมีร่างกายแข็งแรง ปลอดโรค การมีพฤติกรรมเมาขับสวนทางกับเจตนารมณ์ที่มี อีกทั้งยืนยันว่าจะควบคุมดูแลไม่ให้นักฟุตบอลรวมถึงบุคลากรในสโมสรก่อเหตุเมาแล้วขับจนเกิดเหตุการณ์สูญเสียเช่นนี้อีกต่อไป สโมสรชลบุรี เอฟซี ขอแสดงความเสียใจและอาลัยอย่างสุดซึ้ง ส่วนกรณีที่นายศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีม ประกาศขอลาออก เป็นความรับผิดชอบส่วนตัว ไม่ได้ถูกกดดันจากผู้บริหาร และไม่มีข้อมูลว่าพานักฟุตบอลไปดื่มแต่ประการใด ที่ไปในที่เกิดเหตุเพราะได้รับแจ้งจากคนขับจึงรีบเดินทางไปดูพร้อมกับนายเฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ไปด้วยความเป็นห่วงเท่านั้น

ด้านความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี เผยว่า พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอผลตรวจสอบลายนิ้วมือว่า นายวรวุฒิ สุขุนา ผู้รักษาประตูทีมฟุตบอลชลบุรี เอฟซี เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีข้อหาเมาแล้วขับหรือไม่ หากมีจะได้ใส่ในสำนวนเพื่อให้ศาลเพิ่มโทษ หลังจากนั้นจะรวบรวมหลักฐานสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการฟ้องศาลต่อไป คงใช้เวลาประมาณไม่เกิน 2 อาทิตย์ อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้นนายวรวุฒิ ให้การว่า ไปดื่มเหล้าที่หอพักเพื่อนรุ่นพี่ที่ ต.หนองไม้แดง อ.เมืองชลบุรี ก่อนจะขับรถมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้ง เสียหลักชนนางกัลยา ผู้ตายที่เดินออกกำลังกายอยู่ริมถนนจนเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ตอนนี้รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ผู้สื่อข่าวถามว่านายศศิศ ผู้จัดการทีม ร่วมวงเหล้ากับนายวรวุฒิหรือไม่ ผกก.สภ.เมืองชลบุรีตอบว่า เท่าที่รู้ร่วมอยู่ด้วย แต่นายวรวุฒิขับรถออกจากหอพักออกมาก่อน และหลังเกิดเหตุ นายวรวุฒิโทร.ไปบอกว่าขับรถชนคนตาย ผู้จัดการทีมกับนักฟุตบอลอีกคนรีบตามมาดูที่เกิดเหตุ

...