"ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี" ร่วมขับเคลื่อนนำพลังงานสะอาด ทางเลือกใหม่วิถีประมงไทย นำร่องชุมชนประมงปากน้ำประแส จ.ระยอง
เมื่อวันที่ 4 ก.ย.65 ที่ศาลาบริเวณอุทยานสถานเรือรบหลวงประแส ต.ปากน้ำกระแส อ.แกลง จ.ระยอง นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการเสวนาระดมความคิดเห็นจากกลุ่มชาวประมง ภาครัฐ ภาคเอกชน และนักวิจัย ในหัวข้อ "พลังงานสะอาด ทางเลือกใหม่ในวิถีประมงไทย" โดยมี นางชื่นชีวัน ลิมป์ธีระกุล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 8 นายไชยรัตน์ เอื้อตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลปากน้ำประแส นายเสรี เรือนหล้า ประมงจังหวัดระยอง นายวีรวิชญ์ ภมรสมิต พลังงานจังหวัดระยอง ผู้แทนจากสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (ระยอง) นายกสมาคมชาวประมงปากน้ำประแส ชาวประมงในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทนภาคประชาชน ภาคเอกชน และนักวิจัยพลังงานสะอาด เข้าร่วมเสวนา โดยมี อาจารย์ สันติวิภา พานิชกุล นำคณะผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน รุ่นที่ 16 จากสถาบันวิทยาการพลังงาน เข้าร่วมการเสวนาด้วย
...
โดย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเสวนาครั้งนี้เป็นการนำเสนอแนวทางการส่งเสริมการประยุกต์ ใช้พลังงานสะอาดในการประกอบอาชีพประมงและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ปากน้ำประแส พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากชาวประมงในพื้นที่ และแลกเปลี่ยนข้อมูลกับนักวิจัยและพัฒนาด้านพลังงานสะอาด เพื่อขับเคลื่อนการนำพลังงานสะอาดมาใช้ในภาคการประมง ทดแทนการใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีราคาสูงขึ้นทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น รวมถึงช่วยลดการปล่อยมลพิษต่างๆ ที่จะเป็นเงื่อนไขในการควบคุมการส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงไปยังต่างประเทศในอนาคต นอกจากเรื่องของพลังงานสะอาดแล้ว ยังมีการรับฟังความคิดเห็นด้านอื่น เช่น ผลกระทบจากกฎหมายที่แก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย หรือ IUU การแบกรับต้นทุนการทำประมงที่สูงขึ้น และการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ ฯลฯ
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การรับฟังความเห็นจากภาคประชาชน ภาคราชการ และภาคเอกชน ที่ให้ข้อเสนอแนะการขับเคลื่อนพลังงานสะอาดมาใช้ในการทำประมง และกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากและพบว่า มีหลายหน่วยงานได้ดำเนินการสนับสนุนแนวทางดังกล่าวบ้างแล้ว ดังนั้น เพื่อการทำงานที่เป็นการบูรณาการกันอย่างเป็นเอกภาพ จึงเห็นควรเสนอจัดตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานขึ้นมา เพื่อนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมหารือร่วมกัน ในการขับเคลื่อนนำพลังงานสะอาดมาใช้ในภาคการประมง และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยจะนำงานวิจัยและนวัตกรรมเข้ามาสนับสนุนด้วย เพื่อเป็นการลดต้นทุนและลดปัญหามลพิษไปพร้อมกัน ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้กับชุมชนประมงในพื้นที่อื่นๆต่อไป
"สำหรับความเดือดร้อนของชาวประมงปากน้ำประแส ที่เกี่ยวกับ IUU หรือการควบคุมและบังคับใช้กฎหมายประมงที่เข้มข้นนั้น จะประสานส่งข้อมูลให้กรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปใช้พิจารณาแก้ปัญหาในระยะต่อไป เพื่อให้ชาวประมงพื้นบ้านปากน้ำประแส สามารถประกอบอาชีพประมงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน" ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว