กรณีพ่อค้า-แม่ค้าชาวกัมพูชาที่ค้าขายอยู่ในพื้นที่ ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นำคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรมาเปิดเผยให้เห็นกลุ่มคนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเดินสาย “เก็บส่วย” จากพ่อค้า-แม่ค้าในตลาด

แลกกับการไม่ต้องถูกจับกุม

พอคลิปข่าวถูกปล่อยออกมา เป็นเรื่องที่หน่วยงานตำรวจถูกวิจารณ์อย่างมาก ถูกมองถึงความไม่เหมาะสมกับช่วงสถานการณ์วิกฤติที่พี่น้องคนไทยใช้ชีวิตได้ยากลำบากกับการแพร่ระบาดหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19

พ่อค้า-แม่ค้าที่หาเช้ากินค่ำ ทำมาหากินลำบาก สภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำผสมกับการแพร่ระบาดเชื้อติดต่อไวรัสโควิด-19 เข้ามาระบาดในประเทศไทยต่อเนื่องตั้งแต่รอบแรกยันรอบที่ 3 นับวันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ

ทุกคนได้รับผลกระทบแทบไม่มีจะกินแล้ว การมีคนมาอ้างตัว “เก็บส่วย” เท่ากับเป็นการขูดรีดเลือดกับปู ทุกวันนี้ลำพังเจอพิษโควิด-19 แพร่ระบาดหนัก ทุกคนเหนื่อยยากลำบากกันมากพอแล้ว

ยังมาเจอพวกคอยจ้องเอารัดเอาเปรียบพ่อค้า-แม่ค้า คนหาเช้ากินค่ำกันอีก ไม่รู้ว่าบุคคลที่อยู่ในคลิปเป็นตำรวจจริงที่เข้ามากระทำผิดจริงตามที่มีเนื้อหาในคลิปหรือเป็นคนนอกที่มาแอบอ้างชื่อตำรวจ ตม.หากิน

เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กัน

ทันทีที่มีคลิปอ้างถึงคนในหน่วย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. สั่งให้ พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3 เร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ว่า กลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าตลาดโรงเกลือ สุดจะทน หลังมีบุคคลอ้างเป็น ตม.สระแก้ว เรียกเก็บเงินเป็นรายหัว หัวละ 300 บาท และเก็บค่าเช่าห้องเป็นรายเดือน เดือนละ 1,000 บาท

...

กลุ่มบุคคลอ้างว่าเก็บเงินไว้ให้ “นาย” ทำให้พ่อค้า-แม่ค้าชาวกัมพูชาได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก รวมตัวเข้าร้องขอความเป็นธรรมจากสถานกงสุลกัมพูชาประจำประเทศไทย ขอให้ช่วยเหลือและดำเนินการ

กลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเป็นตำรวจมารีดไถ่จากกลุ่มพ่อค้า–แม่ค้าชาวกัมพูชา

พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จ.สระแก้ว ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ บก.ตม.3 เพื่อให้ทำการสอบสวนสืบสวนข้อเท็จจริงก่อน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ถือว่า งานนี้ ผบก.ตม.3 ได้ลงมาแก้ปัญหาจัดการเรื่องราวต่างๆได้รวดเร็ว

ก่อนที่สถานการณ์บานปลาย ได้เร่งตรวจสอบทำความจริงให้ปรากฏ ตามพยานหลักฐาน

ไม่ว่าผู้ที่แอบอ้างหน่วยหรือตำรวจ “นอกแถว” ขูดรีดเอาเปรียบพ่อค้า-แม่ค้าในยามที่เดือดร้อน

อย่างน้อยเพื่อเรียกความเชื่อมั่นหน่วยกลับคืนมา.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th