(ภาพ) ต่อศักดิ์ สุขวิมล
หัวข้อการบรรยายเรื่องภาวะผู้นำของผู้บริหาร พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก. พูดบนเวทีท่ามกลางนายตำรวจระดับ พ.ต.อ.ขึ้นไปในสังกัดที่ตั้งอกตั้งใจฟังกันเต็มห้องตามโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพข้าราชการตำรวจระดับผู้นำหน่วยในสังกัด บช.ก. ที่โรงแรมเดอะซายน์ โฮเทล เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
เมื่อ ตำแหน่งเลือกคน ไม่ใช่คนเลือกตำแหน่ง ทำให้บรรยากาศศึกแก่งแย่ง “ชิงเก้าอี้” ภายในหน่วยสอบสวนกลางจะดูเบาบาง “ไร้ฝุ่นตลบ”
พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ถึงพยายามเน้นปลุกวิญญาณความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง
สิ่งที่ “ผู้นำองค์กร” ต้องมี นอกจากรู้จักครองตน ครองคน ครองงาน คือ “หลักพรหมวิหาร 4” ว่าด้วยเรื่อง เมตตา ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข กรุณา ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มุทิตา ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี และ อุเบกขา การรู้จักวางเฉย
มี “หิริโอตตัปปะ” ความละอายแก่ใจ ละอายต่อบาป ต่อการทำความชั่วความผิด ต่อการประพฤติทุจริตทั้งหลาย และเกรงกลัวต่อผลของความชั่ว ผลของความสุจริตที่ทำไว้
เจ้าตัวทราบดีว่า ตำรวจเสมือนเป็นผ้าขาวทั้งผืน ทำอะไรมาเยอะ เสี่ยงเป็น เสี่ยงตาย แต่พอเกิดจุดดำแค่จุดเดียวกลับไม่มองผ้าขาวทั้งผืน แบบนี้ไม่ยุติธรรม เนื่องจากมองจุดที่ เปื้อนแล้วก็จ้องด่าตรงนั้น
“มีใครไม่เปื้อนบ้าง แต่เราจะทำอย่างไรที่จะใส่ทรีตเมนต์ให้กับชีวิต”
...
เขาถึงให้ลูกน้องใน “หน่วยคอมมานโด” ปฏิบัติธรรมด้วย การบวชเป็นเวลา 9 วัน ทำจิตใจให้สงบ เรียนรู้ถึงสัจธรรมที่แท้จริง
“ชีวิตไม่มีอะไรเป็นของเรา แม้แต่ชีวิตเรายังรักษาไม่ได้ หลงหัวโขนก็แค่ชั่วคราว อายุครบ 60 ปีก็ต้องถอด บ้านช่อง รถรา เงินทอง ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้”
ทุกอย่างล้วนเป็นอนิจจัง.
สหบาท