เป็นเรื่องที่น่ายินดีว่าการดำเนินงานของศูนย์ไกล่เกลี่ยศาลอุทธรณ์ภาค 2 ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จสามารถทำให้คู่ความทั้งสองฝ่ายพอใจ ตกลงกันได้อย่างสันติ โดยไม่ต้องใช้คำพิพากษา

นายปกรณ์ สุวรรณพรหมา ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 2 เผยว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีเขตอำนาจครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ตราด และนครนายก

การไกล่เกลี่ยคดีพิพาทของศาลอุทธรณ์ภาค 2 เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เพื่อรองรับปริมาณคดีที่เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าเมื่อศาลชั้นต้นตัดสินคดีแล้ว พอคดีถึงศาลอุทธรณ์ทำไมถึงยังไกล่เกลี่ยได้อีก

ความจริงเมื่อคู่ความไม่พอใจในศาลชั้นต้น แล้วมีการยื่นอุทธรณ์มา ทางศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้เปิดโอกาสให้คู่ความสามารถมาพูดคุยกันได้อีกครั้งหนึ่ง

การพูดคุยไกล่เกลี่ยในชั้นอุทธรณ์นี้ บางเรื่องก็ไม่ได้ต้องการเรียกร้องเงินทอง แค่มาพูดคุยกันและขอโทษอย่างเดียวก็อาจตกลงกันได้ หรือบางเรื่อง คู่ความยังไม่มีเงินชดใช้ก็ขอผ่อนผันต่อรองกัน ถ้าคู่ความทั้งสองพอใจแล้ว ก็สามารถทำสัญญาประนีประนอมยอมความในชั้นอุทธรณ์ คดีก็จบลงได้โดยไม่ต้องใช้คำพิพากษาตัดสิน

คดีที่ขึ้นมาสู่ศาลอุทธรณ์จะมีเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยแจ้งไปที่คู่ความและสอบถามว่าต้องการไกล่เกลี่ยหรือไม่ ถ้าต้องการพูดคุยจะได้หาทางยุติกันได้ เพราะบางเรื่องยังไม่รู้ว่าถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะไปแล้ว จะสามารถไปเรียกร้องสิ่งที่เราต้องการได้จริงหรือไม่ และยังประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ต้องจ้างทนายความ

สถิติการไกล่เกลี่ยตั้งแต่ปี 2558 มีจำนวน 19 คดี ปี 2559 มี 19 คดี ปี 2560 มี 26 คดี ปี 2561 มี 11 คดี และปี 2562 จนถึงปัจจุบันมี 31 คดี สามารถเอาคู่ความมาเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยที่สำเร็จ ตกลงกันได้เดือนละ 2-3 คดี

...

จึงอยากให้ประชาชนที่มีคดีในชั้นอุทธรณ์ ได้รู้ว่าเมื่อคดีถึงศาลอุทธรณ์แล้วก็ยังสามารถเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ยได้ เพื่อประโยชน์ของประชาชนที่มีคดีขึ้นสู่ศาล.

นิตยา ทุมมานนท์/รายงาน