“เกาะเสม็ด” อัญมณีแห่งภาคตะวันออก ที่ อ.เมืองระยอง มีความสวยงามเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เพราะมีหาดทรายที่ขาวสะอาด น้ำใส นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเหยียบพื้นที่บนเกาะปีละกว่า 1.2 ล้านคน

เมื่อมีนักท่องเที่ยวมากขึ้นในแต่ละปี ปัญหาย่อมมีตามมาเป็นเงาตามตัว เช่น การจราจร ทั้งบนบก ทางเรือ ขยะ คนแอบแฝง สุนัขจรจัด ถนนหนทางไม่เพียงพอชำรุดบ้าง เนื่องจากมีสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้น

ปัจจุบัน “เกาะเสม็ด” อยู่ในความดูแลของ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด มี นายประยูร พงษ์พันธุ์ เป็นหัวหน้าอุทยานฯ ที่ผู้ใหญ่ใน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เลือกมาแก้ปัญหาบนเกาะนี้

ปัญหาต่างๆสะสมมาเป็นเวลานาน เช่น ปัญหาท่าเรือ การเก็บเงินค่า เหยียบพื้นดิน (ค่าธรรมเนียม) การเก็บรายได้จากผู้ประกอบการบนเกาะ และอื่นๆอีกมากมาย เดิมทีรายได้เก็บกันได้เพียงปีละไม่เกิน 23 ล้านบาท

แต่เมื่อ นายประยูร เข้ามารับหน้าที่ตามคำสั่งของ อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้ประชุมหารือกับทุกหน่วยงาน ผู้ประกอบการต่างๆที่มีอยู่ จัดระเบียบให้เข้าที่ เข้าระบบ จนสามารถเก็บรายได้ในปี 2560 เพิ่มขึ้นมาเป็น 118 ล้านบาท และปี 2561 เพิ่มเกินคาดเป็น 172 ล้านบาท จนขึ้นเป็นอันดับที่ 4 ของกรมที่มีรายได้ส่งเข้ารัฐ

นับว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของกรม จากรายได้ปีละ 23 ล้านบาท ขยับ พุ่งขึ้นเป็น 172 ล้านบาทต่อปี และเป็นการยืนยันชัดเจนถึงการทำงานของ นายประยูร หัวหน้าอุทยานฯ อย่างตรงไปตรงมาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

นายประยูร ส่งเสริมและพัฒนาให้เจ้าหน้าที่และพนักงานเรียนรู้เรื่องภาษา พูดคุยกับนักท่องเที่ยวรู้เรื่องการเก็บทำความสะอาดขยะต่างๆรอบเกาะ โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนประสานมือกัน จึงทำให้เกาะเสม็ด ดูสวยงามโดดเด่นสะอาดตา

...

ผลงานของนายประยูรโดดเด่น แต่กลุ่มที่เสียผลประโยชน์คอยให้ข่าวโจมตีเพื่อกดดันให้ย้ายนายประยูร แต่ผู้ใหญ่ในกระทรวงและกรมอุทยานฯ รู้ทันไม่หวั่นไหว เพราะผลงานที่ชี้ชัดถึงความซื่อสัตย์สุจริตนั่นเอง.

ทีมข่าวภูมิภาค