หนุ่มโรงงานขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ก่อนถูกรถไม่ทราบชนิดชนแล้วหลบหนี ทำให้รถที่ตามหลังมาหลายคันทับร่างลากร่างไถลไปตามพื้นถนนจนกะโหลกเปิด-สมองไหล ตายอย่างอนาถ

เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. 2561 ร.ต.ท. มรรคผล ชินวุฒิ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บนถนนสายสุวินทวงศ์ ขาออกเมืองฉะเชิงเทรา บริเวณใกล้เคียงสามแยกไฟแดงสตาร์ไลท์ จึงประสานอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ บริเวณหมู่ 5 ต.วังตะเคียน อ.เมืองฉะเชิงเทรา พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีเขียว-เทา หมายเลขทะเบียน กมย 376 ฉะเชิงเทรา ล้มอยู่ ถัดออกไปพบร่างผู้เสียชีวิตเพศชาย นอนอยู่กลางถนน ในสภาพศีรษะเปิดหายไปครึ่งหัว แขนและขาหัก ทราบชื่อต่อมาคือนาย อรรถพล ศรีพันธุ์เจริญ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 ม.17 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา

ถัดไปประมาณ 20 เมตร พบรถยนต์ที่ชนทับร่างนายอรรถพล ผู้เสียชีวิต เป็นรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีเทา หมายเลขทะเบียน งข 5259 เชียงใหม่ มีนายนครินทร์ พงศ์ศักดิ์ ซึ่งเป็นคนขับ ยืนรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ โดยเปิดเผยว่า ตนเองเดินทางมาจาก อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี กำลังมุ่งหน้ากลับบ้านที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ เห็นร่างของผู้เสียชีวิตนอนอยู่กลางถนนในระยะกระชั้น เนื่องจากถนนกำลังก่อสร้างขยายเส้นทาง และไม่ติดไฟเพื่อส่องแสงสว่าง ทำให้ตนขับรถทับร่างของนายอรรถพล ก่อนจะจอดรถแจ้งเจ้าหน้าที่

...

ขณะที่คนขับรถที่วิ่งตามหลังรถของนายนครินทร์ ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตน่าจะโดนรถทับมาก่อนหน้านี้แล้วจำนวนหลายคัน เนื่องจากศพของผู้ตายถูกลากไถลมาไกลจากรถจักรยานยนต์ อีกทั้งกะโหลกของผู้ตายเปิดออกจนมันสมองไหล ก่อนรถของนายนครินทร์ จะทับเป็นคันสุดท้ายแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ พร้อมยืนยันหลักฐานจากภาพกล้องหน้ารถของตน

ด้านญาติของผู้เสียชีวิต หลังจากทราบข่าวได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า ผู้ตายทำงานอยู่โรงเหล็กบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ซึ่งในช่วงเวลาเกิดเหตุ ผู้ตายน่าจะเอารถยนต์มาเก็บที่โรงงานและกำลังขี่รถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้าน ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าวจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบภาพจากกล้องหน้ารถของนายนครินทร์อีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด ก่อนจะเร่งตามตัวรถยนต์คันก่อเหตุคันแรกมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป