ชาวบ้านบริเวณพื้นที่แอ่งกระทะ ที่ชัยนาท สร้างเพิงพักริมถนน เตรียมพร้อมหากน้ำท่วม หลังเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำเป็นขั้นบันได

วันที่ 8 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาว่ายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทางกรมชลประทานได้มีการแจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเป็นขั้นบันได เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า ขณะนี้ระบายอยู่ที่ 2,199 ลบ.ม./วินาที สถิตินิวไฮเข้าสู่วันที่ 3 ระดับน้ำทรงตัว เหนือเขื่อนลดลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับมวลน้ำจากทางภาคเหนือที่จะลงมาเร็วๆ นี้ ซึ่งทางเขื่อนเจ้าพระยามีแผนจะทยอยเพิ่มจากอัตรา 2,200 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,250 ลบ.ม./วินาที เป็นขั้นบันได หากมีมวลน้ำมากขึ้นและจะคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่องต่อไป

โดยสถานการณ์น้ำ ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,318 ลบ.ม./วินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.93 เมตร/รทก. ลดลงจากเมื่อวาน 22 ซม. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.10 เมตร/รทก. คงที่จากเมื่อวาน ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 1.24 เมตร มีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 2,199 ลบ.ม./วินาที

...

นอกจากนี้ ทางกรมชลประทานยังได้มีการผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ทางด้านท้ายน้ำ การระบายดังกล่าว ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้น 10-15 ซม. ในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ดังนี้ 1. คลองโผงเผง จ.อ่างทอง 2. คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา 3.ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) 4. วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี และ อ.เมือง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี 5. วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ชาวบ้านตำบลโพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำแอ่งกระทะ ยังคงวิตกกังวลกับสถานการณ์น้ำที่ยังไม่แน่นอน หลายครอบครัวมาจับจองที่พักชั่วคราวริมถนน เพื่อสร้างเพิง เตรียมตั้งเต็นท์เป็นแนวยาวตลอดเส้นริมคันคลองมหาราช เพื่อเตรียมการล่วงหน้า หากน้ำมาเร็วจะได้อพยพขึ้นมานอนริมถนนได้ทันท่วงที

นายสุนทร ชัยบุรินทร์ อายุ 56 ปี ชาวบ้านตำบลโพนางดำออก บอกว่า แม้ว่าระดับน้ำยังไม่เข้าบ้าน แต่มีการช่วยกันกั้นกระสอบป้องกันเอาไว้ แต่ก็ยังไม่วางใจ จึงรีบมาสร้างเพิงที่พักริมถนนไว้ก่อน หากระบายถึง 2,400 ลบ.ม./วินาที เมื่อไรก็อพยพทันที ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าถึงปี 54 เพราะน้ำเหนือไม่มีเพิ่มแล้ว แต่อาจจะถึงปี 65 หรือไม่ ต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน

นายบุญช่วย ทุ่งลา อายุ 76 ปี เผยว่า แม้อายุเยอะต้องปีนขึ้นมาสร้างเพิงเอง ซึ่งปีนี้ระดับน้ำไม่น่าเท่า ปี 54 แต่ก็ไม่แน่ใจ เพราะต้องกันไว้ก่อน ต้องดูน้ำทางภาคเหนือลอตสุดท้ายที่จะปล่อยมาอีกครั้งว่าจะมากน้อยเพียงใด ถึงจะท่วมก็ไม่เป็นไรเพราะลูกแม่น้ำทุกคนชินกันหมด แต่ต้องเตรียมการไว้ก่อนหากฉุกเฉินจะทำอะไรไม่ทัน