อธิบดีกรมโรงงาน นำทีมลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ตรวจอีกโรงงาน หลังถูกซัดทอดเอี่ยวโยงอะลูมิเนียมดรอส พบยังไม่มีใบประกอบกิจการ และการประเมินสิ่งแวดล้อมไม่ผ่าน ถือว่าฝ่าฝืนคำสั่ง จ่อดำเนินคดีหนัก

 


เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 ส.8.67 นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และคณะ ได้ร่วมกับ ตำรวจ ปทส. ตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง นางศิริลักษณ์ พันธุ์บ้านแหลม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางกระเจ้า และเจ้าหน้าที่ฯ ได้เข้าตรวจที่โรงงานจุนยู ซึ่งตั้งอยู่ติดกับด้านในของ บริษัทไท่เป่าอลูมิเนียม จำกัด หมู่ที่ 7 ต.บางกระเจ้า อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร บนพื้นที่เช่าเดียวกัน ก่อนที่จะเข้าตรวจซ้ำที่บริษัทไท่เป่าฯ ซึ่งขณะนี้ถูกสั่งอายัดทุกอย่างไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับทราบว่า มีการซัดทอดมาที่บริษัทจุนยู ด้วยว่ามีการนำอะลูมิเนียมดรอสมาส่งที่นี่ ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบพบว่า โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับโรงงานไท่เป่าฯ ในพื้นที่เช่าเดียวกัน โดยที่โรงงานแห่งนี้ก็ไม่พบตัวเจ้าของ มีเพียงผู้ดูแลเท่านั้น จึงได้ให้ผู้ดูแลนำตรวจ ซึ่งจากการตรวจในเบื้องต้นพบว่า เครื่องจักรที่ติดตั้งไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต แต่โรงงานจุนยูที่มาทำการขยายผลนี้ ได้รับใบอนุญาตประเภท 106 ให้ดำเนินกิจการประเภทหล่อหลอมอะลูมิเนียมดรอสได้ แต่ยังไม่สามารถแจ้งอนุญาตให้ประกอบกิจการได้เนื่องจากรายงานที่ประเมินสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยนั้น ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่ทางโรงงานได้แจ้งขออนุญาตทดลองเครื่องจักรมาแล้ว 2 รอบ ดังนั้นจึงได้มาทำการตรวจสอบว่า ระหว่างที่แจ้งขออนุญาตทดลองเดินเครื่องจักรนั้นได้นำอะไรมาหล่อหลอม และมีการจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างไร หากพบว่า กระทำไม่ถูกต้องหรือฝ่าฝืนคำสั่ง ก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย

...

 

ส่วนที่โรงงานของบริษัท ไท่เป่าอลูมิเนียม จำกัด แห่งนี้ ก็ตามที่ทราบกันว่า เป็นการขยายผลมาจากจังหวัดนครปฐม ซึ่งการเข้าตรวจในครั้งนี้โดยอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ก็ได้พบกับนางกรรณิการ์ รับเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทฯ และพาเข้าไปตรวจดูด้านในโรงงาน โดยพบทั้งกากอะลูมิเนียมดรอสกองอยู่ภายในและภายนอกตัวอาคาร แท่งอะลูมิเนียมที่หล่อหลอมในลอตแรกเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมนำส่งกลับไปให้นายทุนจีนที่เปิดบริษัทอยู่ที่ประเทศเกาหลี และยังมีตะกรันอะลูมิเนียม หรือผงฝุ่นที่เกิดจากการหล่อหลอม พร้อมกับเครื่องจักรที่ใช้ในการหล่อหลอม โดยทั้งหมดนั้นอยู่ในสำนวนคดีของทาง ปทส.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ขณะที่ นางกรรณิการ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ อ้างว่า ด้วยพิษเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ประกอบกับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ตนได้ร่วมกับพวกที่เป็นคนจีน รับผลิตอะลูมิเนียมอัดแท่งเพื่อส่งกลับไปให้นายทุนจีนที่เปิดบริษัทอยู่ในประเทศเกาหลี โดยจะไปรับกากอะลูมิเนียมดรอสมาจากบริษัทในจังหวัดนครปฐม เนื่องจากบริษัทฯ นั้น ผลิตให้นายทุนไม่ทันต่อความต้องการ ส่วนการติดต่อนั้นผู้ร่วมทุนกับตนที่เป็นชาวจีนจะติดต่อกับทางเจ้าของบริษัทใหญ่ในประเทศเกาหลีโดยตรงเลย ซึ่งโรงงานของตนจะได้ค่าหล่อหลอมผลิตออกมาเป็นแท่งในราคากิโลกรัมละ 3 บาท ไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นแต่ค่าที่ต้องกำจัดกากตะกรัน หรือฝุ่นอะลูมิเนียมที่เกิดจากการผลิตเท่านั้น ซึ่งนับตั้งแต่ที่เริ่มผลิตมาเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ทางโรงงานตนก็ยังไม่ได้นำกากฝุ่นส่งไปกำจัดที่ไหน ได้แต่ใส่ถุงบิ๊กแบ็กไว้เพื่อรอความรู้เรื่องการกำจัดจากเจ้าหน้าที่และหาสถานที่ๆ รับกำจัดกากฝุ่น  

 

อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวทิ้งท้ายว่า กากอุตสาหกรรมเหล่านี้ ถือเป็นกากอันตรายที่ไม่สามารถนำเข้ามาในประเทศไทยได้ ซึ่งก็เชื่อได้ว่าจะต้องมีการสำแดงอันเป็นเท็จเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ฯ โดยหลังจากนี้ก็จะนำไปตรวจว่า อะลูมิเนียมดรอสที่พบนี้มีแหล่งที่มาจากไหนกันแน่ เพราะแต่ละประเทศก็จะมีความแตกต่างกัน ส่วนโรงงานที่กระทำความผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่จะยังมีโรงงานอื่นอีกหรือไม่นั้น เบื้องต้นแม้จะยังไม่พบการซัดทอด แต่ก็ได้สั่งการให้ทางพื้นที่ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนความคืบหน้าอื่นๆ อยู่ในระหว่างการสอบสวนฯ ของทางตำรวจ ปทส.ที่จะติดตามตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

...