ระทึกโรงบรรจุแก๊สหุงต้มระเบิด ไฟลุกท่วมมีกลุ่มควันสีดำทะมึนพวยพุ่งลอยขึ้นฟ้า ชาวบ้านต่างหวาดผวา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำหล่อเย็นไปทั่วบริเวณแล้วรีบเข้าไปปิดวาล์วใช้เวลากว่า 2 ชม. เพลิงจึงสงบ สาเหตุจากคนขับรถบรรทุกแก๊สขนาด 15 ตันวิ่งมาถ่ายแก๊ส วาล์วเกิดรั่วมีสะเก็ดไฟทำให้ระเบิดคลอกร่างเจ็บสาหัส

เหตุไฟไหม้โรงบรรจุถังแก๊สหุงต้ม เปิดเผยเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 ก.ค. ร.ต.ท.ภานุวัฒน์ สิตวงษ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุแก๊สหุงต้มระเบิดที่โรงบรรจุแก๊สของ หจก.เดิมบางประกอบพานิช เลขที่ 107 หมู่ 4 ต.เขาพระ ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลเดิมบาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี พร้อมด้วยรถดับเพลิง 10 คัน

ที่เกิดเหตุมีเนื้อที่ 1 ไร่ มีกำแพงปูนปิดล้อมรอบด้าน บริเวณด้านหน้าเป็นที่เก็บถังแก๊สหุงต้มยี่ห้อ ปตท.หลายขนาด ด้านหลังเป็นจุดถ่ายแก๊สลงถังเก็บ พบรถบรรทุกถังแก๊สขนาดใหญ่ 2 คัน เกิดไฟไหม้ 1 คันมีแก๊สรั่วพวยพุ่งเกิดไฟลุกออกมาอย่างต่อเนื่อง กลุ่มควันสีดำทะมึนลอยขึ้นฟ้าและเกิดเปลวไฟโหมแรง บริเวณใกล้กันพบถังเก็บแก๊สขนาดใหญ่จำนวน 3 ถัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกั้นพื้นที่พร้อมลากสายดับเพลิงระดมฉีดน้ำสกัด พร้อมกับฉีดละอองน้ำหล่อเลี้ยงถังเก็บไม่ให้เกิดความร้อน ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง กระทั่งเพลิงสงบ ตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บ 2 คน ทราบชื่อนายสัมริต เจียมกันยา อายุ 66 ปี คนขับรถบรรทุกส่งแก๊ส ถูกไฟคลอกทั้งตัว และนายพิทักษ์ สุขสำราญ อายุ 49 ปี มีอาการแน่นหน้าอก เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลเดิมบางนางบวช ก่อนจะส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช

สอบถามนายชาตรี ฉิมพรัตน์ นายอำเภอเดิมบางนางบวช ทราบว่า สอบถามพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์ ต้นเพลิงมาจากรถที่มาส่งแก๊สขนาด 15 ตัน จอดเตรียมถ่ายแก๊สที่ด้านหลังแล้ววาล์วเปิด-ปิดเกิดรั่ว คนขับรถตกใจหาที่ปิดวาล์วไม่เจอ กระทั่งเกิดสะเก็ดไฟแล้วระเบิดขึ้น ส่วนความเสียหายภายในโรงงานเบื้องต้นมีรถบรรทุกแก๊สถูกไฟไหม้ 1 คัน รถกระบะ 1 คัน รถ จยย.1 คัน และรถบรรทุกถังแก๊สหุงต้มอีก 1 คัน ส่วนมูลค่าความเสียหายทั้งหมดจะต้องรอเจ้าหน้าที่มาประมาณอีกครั้ง

...

ด้านนายเอกลักษณ์ ขวัญเจริญพร ทีมครูฝึกดับเพลิงเลือดสุพรรณ กล่าวว่า การเข้าไปปิดวาล์วแก๊สต้องมีความระมัดระวังพอสมควร เพราะในพื้นที่ค่อนข้างมีความร้อนสะสม และวาล์วจากถังตัวรถยังไม่ได้ปิด ทำให้ช่วงเข้าไปต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ขณะเกิดเหตุมีเปลวไฟและกลุ่มควันอย่างต่อเนื่อง นักดับเพลิงต้องฉีดน้ำช่วยหล่อเย็นเข้าไปตลอด ไม่ให้ขาดน้ำเพื่อควบคุมความร้อน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปปิดวาล์วแก๊สก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นถึงจะคลายความร้อนเพื่อควบคุมเพลิง ขณะที่ตำรวจอยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์ หลักฐานเพื่อเข้าตรวจสอบต่อไป

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่