ชาวบ้านที่ต้องใช้สะพานกรุงนนท์ต้องทนทุกข์อีกวัน หลังรถบรรทุกพ่วงเครื่องจักรหนัก 25 ตัน ขึ้นไม่ไหวไหลลงไปชนตึกแถวเชิงสะพานเสียหาย เสาค้ำน้ำหนักหัก 2 ต้น เจ้าหน้าที่หวั่น หากนำตู้พ่วงที่เสียบคาตึกอยู่ตึกอาจถล่มเสียหายมากกกว่านี้ อยู่ระหว่างนำอุปกรณ์ค้ำยันอาคารก่อนเร่งเคลื่อนย้าย คาดเสร็จเช้าวันที่ 7 เม.ย. ด้านเจ้าของตึกแถวร้านกาแฟที่ถูกแจ็กพอตสวดยับ ชาวบ้านเตือนแล้วอย่าข้ามแต่คนขับยังรั้นจนเกิดเหตุ ขณะที่ผู้คนย่านนั้นบ่นไม่ใช่ครั้งแรก ด้าน ผกก.สน.ตลิ่งชัน จัดหนักดำเนินคดีทุกข้อหาคนขับรถบรรทุกและเจ้าของ พร้อมหารือ กทม.และผู้เกี่ยวข้อง กำชับป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก

กรณีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หัวพ่วงทะเบียน 62-3368 กรุงเทพมหานคร บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 1 ตู้ ของ บ.สุขสมบูรณ์ทรานส์เซอร์วิส จอดเสียบนเชิงสะพานกรุงนนท์ข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ซอยสวนผัก 32 (ซอยกรุงนนท์) แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม. สุดท้ายเสียหลักไหลลงสะพานพุ่งชนอาคารพาณิชย์เชิงสะพานเสียหาย โดยเฉพาะตึกแถว 3 ชั้นห้องหัวมุม เลขที่ 40/8 เปิดเป็นร้านขายกาแฟ เสียหายอย่างหนัก เสารับน้ำหนักขาด 2 ต้น หากนำตู้คอนเทนเนอร์ออกหวั่นจะถล่มลงมา ขณะที่ประชาชนไม่สามารถใช้สะพานข้ามไป จ.นนทบุรี ได้ เพราะเป็นสะพานขนาดเล็กรถวิ่งสวนกัน เหตุเกิดบ่ายวันที่ 5 เม.ย. อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการหาทางนำตู้คอนเทนเนอร์ออก จนกระทั่งช่วงเที่ยงคืนเศษวันที่ 6 เม.ย. เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพ มหานครได้ประเมินความเสียหาย หากนำรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อตู้คอนเทนเนอร์ออกอาจสุ่มเสี่ยงต่อตัวอาคารพาณิชย์พังถล่ม ผู้ปฏิบัติงานอาจจะไม่ปลอดภัย จึงยุติการปฏิบัติงานพร้อมปิดกั้นการจราจรไม่ให้ประชาชนใช้สะพานและให้ไปใช้เส้นทางอื่นแทน ทำให้ผู้ที่ต้องใช้สะพานนี้ในการสัญจรเดือดร้อนกันทั่วหน้า

...

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 เม.ย. พ.ต.อ.มนต์ชัย อรุณส่องแสงดี ผกก.สน.ตลิ่งชัน เผยว่า จะเรียกคนขับรถและเจ้าของรถบรรทุก 18 ล้อ มาสอบปากคำเพิ่มเติม และเตรียมแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย นอกจากนี้สั่งการให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบการกระทำความผิดอื่นๆ เช่น การฝ่าฝืนป้ายจราจรที่ห้ามรถบรรทุกผ่าน หากพบว่ามีความผิดให้ดำเนินคดีอย่างเต็มที่ ส่วนเจ้าของอาคารพาณิชย์ที่ถูกชนเสียหายได้เข้าแจ้งความเรียกร้องค่าเสียหายแล้ว อาคารที่เหลืออย่างน้อย 2-3 คูหา อยู่ระหว่างรอผลตรวจทางวิศวกรรมอย่างละเอียดอีกครั้ง จากการตรวจสอบพบว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวมีประกันวินาศภัยอยู่ที่วงเงิน 600,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท หลังจากนี้ ทั้งฝ่ายเจ้าของรถบรรทุก คนขับรถบรรทุก และเจ้าของอาคารที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด จะตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหายภายหลัง

ผกก.สน.ตลิ่งชันกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังสั่งปิดจราจรเป็นการชั่วคราว เตรียมนำอุปกรณ์เข้ามาเคลียร์รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์กับค้ำยันอาคาร เพื่อเร่งคืนพื้นผิวการจราจรโดยเร็วที่สุด พร้อมหารือพูดคุยกับกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำชับป้องกันไม่ให้รถบรรทุกเข้ามาในพื้นที่ชุมชนที่เสี่ยงอันตรายหรือคับแคบ และเน้นย้ำป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ซ้ำรอยอีก

ล่าสุดเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจดูสถานที่และประเมินสถานการณ์เตรียมใช้อุปกรณ์เสาเหล็กค้ำยันตึก ก่อนจะนำเครนยกและดึงเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์พร้อมกับรถบรรทุกออกจากตัวอาคาร คาดจะเสร็จสิ้นอย่างช้าสุดช่วงเช้าวันที่ 7 เม.ย.นี้

สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 5 เม.ย. พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งมีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ หัวพ่วง ทะเบียน 62-3368 กรุงเทพมหานคร ของ บ. สุขสมบูรณ์ทรานส์เซอร์วิส จอดเสียบนเชิงสะพานกรุงนนท์ ข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ซอยสวนผัก 32 (ซอยกรุงนนท์) แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม.ทำให้การจราจรติดขัดเนื่องจากกีดขวางการจราจรและเป็นซอยแคบ ได้ประสานตำรวจจราจรอำนวยความสะดวก ต่อมาเวลา 15.00 น. รถบรรทุกที่จอดเสียโดยส่วนท้ายเป็นคอนเทนเนอร์บรรทุกเครื่องจักร น้ำหนักกว่า 25 ตันไหลลงสะพานพลิกคว่ำชนอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ที่สร้างติดกัน 20 คูหา เป็นเหตุให้อาคารหัวมุม เปิดเป็นร้านอาหารและกาแฟเลขที่ 40/8 ของนายณัฎฐพัชร์ รักวิทยาศาสตร์ พังเสียหาย เสารับน้ำหนักหักไปประมาณ 2 ต้น แต่อาคารยังไม่ทรุดตัวลงมา

นายณัฎฐพัชร์ รักวิทยาศาสตร์ อายุ 40 ปี เจ้าของร้านกาแฟที่เสียหายกล่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 11.00 น.วันที่ 5 เม.ย. รถคันเกิดเหตุพยายามวิ่งข้ามสะพานแต่ข้ามไม่ไหวจนรถไหลมาขวางถนนปิดการจราจร ชาวบ้านพยายามเตือนคนขับว่าอย่าขับรถข้ามไป แต่คนขับไม่ฟัง ขับข้ามจนทำให้รถค้างอยู่เชิงสะพานขวางทาง ก่อนที่คนขับจะตามรถเครนมาช่วยดึงรถข้ามไปจนเกือบถึงกลางสะพาน แต่ด้วยความที่รถบรรทุกมีน้ำหนักมาก เครนดึงไม่อยู่ รถบรรทุกพ่วงไหลลงพุ่งเข้าชนบ้านตนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ดีไม่มีใครบาดเจ็บ ทั้งนี้ ชาวบ้านกลัวผลกระทบตึกจะถล่มลงมา ส่วนสะพานต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแล เพราะทำให้คนสองจังหวัดเดือดร้อน

เจ้าของบ้านรายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบเผยว่า เหตุแบบนี้ไม่ได้เกิดครั้งแรก ที่รถบรรทุกน้ำหนักมากขึ้นสะพานแล้วรถไหลลงมา มีถึงห้าครั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่าหนักสุดเพราะถนนเส้นนี้มักมีรถบรรทุกหนักแอบข้ามสะพานจริงๆ แล้วมีป้ายห้ามไม่ให้รถบรรทุกวิ่งข้ามแต่ยังมีคนฝ่าฝืน น่าจะมีเหล็กกั้นบนถนนกันรถบรรทุกวิ่งข้าม ก่อนหน้านี้เคยมีพนักงานการไฟฟ้าซึ่งเป็นผู้หญิงขับรถเก๋งตามหลังรถบรรทุกเหล็กเส้น แต่รถบรรทุกต้องถอยลงมาเพราะขึ้นไม่ไหวทำให้เหล็กเส้นพุ่งทะลุกระจกรถเก๋ง โชคดีที่คนขับไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทำให้เกิดอาการช็อกลงจากรถไม่ได้ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต้องลงไปช่วยนำตัวออกมาฝากถึงหน่วยงานราชการ ถ้าไม่คิดจะทำอะไรกับสะพานนี้ ควรหาวิธีป้องกันไม่ให้รถใหญ่วิ่งเข้ามาหรือสร้างใหม่ไม่ให้ชันขนาดนี้ เพราะถนนเส้นนี้เป็นเส้นเดียวที่ใช้ไปมาระหว่างคนกรุงเทพและคน จ.นนทบุรี ใช้กันมานานมากแล้ว

มีรายงานว่า สะพานกรุงนนท์เป็นสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ รอยต่อระหว่างแขวงและเขตตลิ่งชัน กทม. กับ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2516 หรือ 40 ปีก่อน เชื่อมระหว่างถนนสวนผัก ฝั่งกรุงเทพมหานคร กับถนนปลายทางไปยังถนนกาญจนาภิเษกและถนนอัจฉริยะประสิทธิ์ไปยังถนนราชพฤกษ์ อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานคร เคยติดป้าย “ห้ามรถบรรทุกผ่าน เนื่องจากตอม่อสะพานชำรุด” แต่มีรถบรรทุกฝ่าฝืนใช้เส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดบนถนนราชพฤกษ์และถนนกาญจนาภิเษก โดยเมื่อปี 2558 กรุงเทพมหานครเคยมีแนวคิดที่จะซ่อมแซมสะพานพร้อมขยายผิวจราจร แต่ต้องตรวจสอบกรรมสิทธิ์พื้นที่โดยรอบสะพานก่อน สุดท้ายมาเกิดเหตุครั้งนี้ถือว่าหนักสุด

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่