หนุ่มใหญ่ทายาทเศรษฐินีเมืองนนท์โร่แจ้งความดำเนินคดีกลุ่มญาติ 6 คนโกงมรดกที่ดินมูลค่าเกือบ 200 ล้านบาท หลังเจ้าตัวติดคุกคดีชิงทรัพย์เมื่อปี 53 แม่ป่วยเป็นมะเร็ง ญาตินำเอกสารไปให้เซ็นในเรือนจำครั้งแรกไม่ยอมเซ็นเพราะเรียนจบแค่ ป.6 อ่านหนังสือไม่ออก มาครั้งสองถูกผู้คุมพูดขู่เลยจำต้องเซ็น ภายหลังแม่เสียชีวิตลงในปีเดียวกัน ส่วนตัวเองพ้นโทษออกมาในปี 61 ตรวจพินัยกรรมแม่พบถูกปลอมลายเซ็น ญาติไปร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ก่อนเอาที่ดินส่วนหนึ่งไปขายได้เงิน 47 ล้านบาท แบ่งมาให้แค่ 4 ล้านบาท ยังมีที่ดินอีกกว่า 100 ไร่มูลค่ากว่า 150 ล้านบาทถูกแบ่งให้ญาติๆไปหมดแล้ว ตำรวจส่งเอกสารหลักฐานให้ พฐ.ตรวจพิสูจน์พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย

เรื่องราวสุดชอกช้ำหนุ่มใหญ่ลูกชายคนเดียวของเศรษฐินีที่ดินเมืองนนทบุรีถูกเครือญาติโกงมรดกร่วม 200 ล้านบาท เปิดเผยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. นายนนทรานุวัฒน์ พรหมจันทร์ เจ้าของเพจ เฟซบุ๊ก “คณะติดตามงานนนทบุรี” พานายปรีชา เครือพลอย อายุ 42 ปี และ น.ส.ศิริลักษณ์ จันทร์อ้น อายุ 32 ปี สองสามีภรรยา บ้านอยู่ อ.เมืองนนทบุรี หอบเอกสารหลักฐานเข้าพบนายวัชระ เลิศพงศ์วรพันธ์ ทนายความ ให้ดำเนินคดีกลุ่มเครือญาติ 6 คนคาดว่ามีการปลอมลายเซ็นในพินัยกรรมของนางชุ่ม เครือพลอย อายุ 88 ปี มารดาของนายปรีชา ที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 53 นำที่ดินมรดกไปขายแล้วบางส่วนเป็นเงินกว่า 47 ล้านบาท และยังมีที่ดินอีกกว่า 100 ไร่ มูลค่า 150 ล้านบาท ถูกโอนเป็นชื่อเครือญาติโดยการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกแทนลูกชาย ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา

นายปรีชา ผู้เสียหายเผยว่า เป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ เมื่อปี 53 ถูกจับคดีชิงทรัพย์ ศาลตัดสินจำคุกอยู่เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างต้องโทษแม่ป่วยเป็นมะเร็งต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล กลุ่มเครือญาติฝ่ายแม่นำเอกสารมาให้เซ็น ตนอ่านหนังสือไม่ออกเพราะเรียนแค่ ป.6 จึงไม่เซ็น หลังจากนั้นญาตินำเอกสารมาให้เซ็นอีกครั้ง ครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่เรือนจำพูดจาข่มขู่ด้วย ทำให้เกิดความหวาดกลัวจำต้องเซ็นไปโดยไม่ทราบว่าเป็นเอกสารอะไร ภายหลังแม่เสียชีวิตลงในปีเดียวกัน ต่อมาตนพ้นโทษออกมาเมื่อปี 61 ทราบว่ากลุ่มเครือญาติไปร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกของแม่ โดยแม่ตนทำพินัยกรรมยกที่ดินให้กลุ่มเครือญาติ เมื่อตรวจสอบลายเซ็นในพินัยกรรมพบว่าไม่ใช่ลายเซ็นของแม่

...

หนุ่มใหญ่ผู้เสียหายเผยต่อไปว่า มรดกของแม่ทั้งหมดมีที่ดินพร้อมอาคารพาณิชย์ 3 คูหาติดถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี ถูกขายไปเป็นเงิน 36 ล้านบาท และที่ดิน 11 ไร่ใน ต.ราษฎร์นิยม อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ถูกขายไปเป็นเงิน 11 ล้านบาท รวม 47 ล้านบาท กลุ่มญาติแบ่งเงินให้ตนเพียง 4 ล้านบาทเท่านั้น ยังมีที่ดินเหลืออีกที่ จ.สุพรรณบุรี อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี และบริเวณหลัง สภ.รัตนาธิเบศร์ รวมกว่า 100 ไร่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท ถูกแบ่งโอนเป็นชื่อเครือญาติรวม 6 คน เกิดข้อสงสัยในมรดกของแม่ว่าทำไมตนเป็นลูกคนเดียวแต่มรดกต้องถูกแบ่งให้คนอื่นที่เป็นญาติห่างๆด้วย นำเรื่องมาคุยกับแม่ยายและภรรยาก่อนจะไปปรึกษานายนนทรานุวัฒน์ เจ้าของเพจคณะติดตามงานนนทบุรี ให้ช่วยเหลือและมอบเอกสารหลักฐานให้ทนายความพาเข้าแจ้งความและช่วยเหลือทางด้านคดีทั้งหมด

ขณะที่ น.ส.ศิริลักษณ์ ภรรยานายปรีชา กล่าวว่า หลังสามีเล่าเรื่องมรดกของแม่ให้ฟังก็สงสัยเรื่องพินัยกรรมว่าแม่สามีทำจริงหรือไม่ ญาติบอกว่าพ่อแม่สามีมีลูกคนเดียวไม่จำเป็นต้องทำพินัยกรรม ทรัพย์สมบัติต้องตกเป็นของลูกทั้งหมดอยู่แล้ว ทำให้คิดว่าพินัยกรรมไม่ชอบธรรมและผิดปกติ ไปร้องขอคัดพินัยกรรมจากศาลจังหวัดนนทบุรี เมื่อสามีตรวจสอบลายเซ็นก็ยืนยันว่าไม่ใช่ลายเซ็นของแม่แน่นอน ได้ตรวจสอบรายละเอียดมรดกทั้งหมดพร้อมทั้งค้นห้องของแม่ พบเอกสารต่างๆของแม่ทั้งโฉนดที่ดินและเอกสารประกันต่างๆ นำลายเซ็นมาเปรียบเทียบก็ไม่เหมือนกัน

ด้านนายวัชระ เลิศพงศ์วรพันธ์ ทนายความกล่าวว่า นายปรีชา ผู้เสียหายเรียนหนังสือแค่ ป.6 จบมาแบบไม่รู้เรื่อง ระหว่างติดคุกในเรือนจำกลุ่มญาตินำเอกสารมาให้เซ็นและถูกขู่จนเกิดความกลัวก็เซ็นไปแบบไม่รู้เพราะอ่านไม่ออก หลังรับเรื่องได้ตรวจสอบเอกสารทั้งหมดพบว่ามีที่ดินบางส่วนถูกขายไปแล้ว ยังเหลือที่ดินที่ถูกแบ่งออกเป็นชื่อญาติคนอื่นอีก 6 แปลง พบข้อพิรุธในเอกสารจึงพาเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ให้ตรวจสอบพินัยกรรมของนางชุ่ม ลงวันที่ 18 พ.ค.53 ว่าเป็นพินัยกรรมปลอมและใช้พินัยกรรมปลอมหรือไม่ เพราะอาจทำให้นายปรีชา ผู้เป็นลูกชายได้รับความเสียหาย ให้ดำเนินการให้พินัยกรรมเป็นโมฆะเพราะทำในขณะที่มารดาป่วยหนัก หลังจากพิสูจน์ทราบจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ด้านคดีตำรวจอยู่ระหว่างมอบหลักฐานให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ และเรียกผู้เสียหายเข้าสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่