ดาบตำรวจท่องเที่ยวนครสวรรค์ แจงหลังถูกพาดพิงเอี่ยวส่วยแผงหวยวัดหนองกระดี่นอก จ.อุทัยธานี ยันไม่เคยเก็บส่วย โดยเคยมีการพูดคุยให้พ่อค้าแม่ค้าช่วยเหลือค่าน้ำค่าไฟให้กับทางวัด ซึ่งเป็นเรื่องของวัด เชื่องานนี้โดนแกล้ง
จากกรณีมีการนำเสนอข่าวว่ามีตำรวจ เอี่ยวกับการเรียกรับส่วยกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ภายในวัดหนองกระดี่นอก หรือ วัดหลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์ ต.หนองยายดา อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ซึ่งเรื่องได้แดงขึ้นมา เมื่อทางเจ้าคณะอำเภอทัพทัน ในฐานะรักษาการเจ้าอาวาสวัดองค์ใหม่ ได้มีการนำคณะเข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัด ก่อนที่ กรรมการวัดรายหนึ่งจะมีการแฉกันในที่ประชุมว่า สมัยเจ้าอาวาสองค์เก่า ดำรงตำแหน่ง ได้มีการจ่ายส่วยให้กับตำรวจรายเดือน เดือนละ 9,000 บาท เพื่อให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล สามารถขายหวยเกินราคาภายในวัดได้ โดยในที่ประชุมได้มีการพาดพิงไปถึงตำรวจประจำป้อมสายตรวจของ สภ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี แต่ตำรวจที่เข้าร่วมประชุมในวันนั้น ได้ลุกขึ้นมาตอบปฏิเสธ แต่ในท้ายที่สุด ผู้สื่อข่าวได้พยายามตรวจสอบข้อมูล จนมีข้อมูลว่า ตำรวจที่มีการเก็บส่วย มีบ้านพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้วัด แต่มีตำแหน่งเป็นตำรวจท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ นั้น
...
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 23 มิ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จังหวัดนครสวรรค์ ด.ต.เกษมสันต์ แพรดำ ผู้บังคับหมู่สถานีตำรวจท่องเที่ยวนครสวรรค์ ได้ติดต่อกับทางผู้สื่อข่าว เพื่อชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น กรณีที่ถูกกล่าวหาว่า เข้าไปมีส่วนพัวพันกับการเรียกส่วยเพื่อขายหวยเกินราคากับวัดหลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์
ด.ต.เกษมสันต์ กล่าวว่า ด้วยการที่ตัวเองมีบ้านพักอาศัยอยู่ติดกับหลวงพ่อเคลือบ และที่ผ่านมาหลายปี เวลาที่ตนว่างจากงาน ก็มักจะเข้าไปช่วยเหลือกิจกรรมของทางวัดอยู่บ่อยครั้ง ทั้งงานบุญต่างๆ งานบวชของชาวบ้าน แม้กระทั่ง งานศพ ตนก็ยังเข้าไปช่วยเหลือ จนมีความสนิทกับอดีตเจ้าอาวาสองค์เก่า ท่านก็ได้ให้ตนคอยให้คำปรึกษา และเป็นส่วนหนึ่งของวัดคอยช่วยเหลืองานกิจกรรมตลอด เพียงแต่ตนไม่ได้เข้าไปเป็นคณะกรรมการวัดเท่านั้น
ตำรวจที่มีบ้านอยู่ใกล้วัด กล่าวต่อว่า ประเด็นเรื่องเก็บส่วยบรรดาพ่อค้าแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ต้องบอกก่อนว่า ตอนนั้น ก็เริ่มมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาขายหวยภายในวัด ตนกับหลวงพ่อ รวมถึงคณะกรรมการคนอื่นๆ ก็ได้มีการพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไร ถึงจะจัดระเบียบได้ จนมีความเห็นว่า จะต้องมีการจัดที่ทางให้ขายหวยภายในวัดโดยเฉพาะ และต้องให้พ่อค้าแม่ค้าที่จะเข้ามาขายหวยที่นี่ ต้องมีการลงทะเบียนกับทางวัด ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหวยแล้ว และมีข้อตกลงกันว่า ทางพ่อค้าแม่ค้าที่มาลงทะเบียนขายหวยที่นี่ จะมีการช่วยเหลือค่าน้ำค่าไฟให้กับทางวัด ส่วนการจะบริหารจัดเก็บกันอะไร อย่างไร เรื่องนี้ ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของทางวัด ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะตนแค่เข้าไปช่วยให้คำปรึกษาในเรื่องการจัดระเบียบเท่านั้น
"เรื่องเก็บส่วยวัด ผมยืนยันว่าไม่มี 100% มันจะมีได้อย่างไร ถ้าไม่เชื่อไปดูบันทึกประจำวันใน สภ.เจ้าของพื้นที่ได้เลย จะพบว่า ยังมีการจับกุมผู้ค้าหวยเกินราคาที่วัดอยู่บ่อยๆ และอีกอย่าง ที่วัด ก็มีการติดป้ายเอาไว้ชัดเจนด้วย ว่าพ่อค้าแม่ค้าขึ้นทะเบียนกับทางวัด ไม่มีการขายหวยเกินราคา จึงขอยืนยันว่า ไม่มีตำรวจหน่วยไหน เข้าไปเรียกเก็บส่วยหวยภายในวัดอย่างแน่นอน ส่วนผมที่โดนพาดพิงว่าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น ผมก็ขอยืนยันด้วยเช่นกัน ผมไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยเลย ที่ผ่านมา ผมโดนแอบอ้าง" ด.ต.เกษมสันต์ กล่าว
ตำรวจที่มีบ้านอยู่ใกล้วัด กล่าวอีกว่า หลังจากมีข่าวออกสื่อ และมีการพาดพิงตำรวจที่เก็บส่วยมาถึงตน ตนก็ได้โทรศัพท์ไปสอบถามบรรดาพ่อค้าแม่ค้าหวยของวัด พร้อมกับไปรายงาน ชี้แจงกับผู้บังคับบัญชาตำรวจที่ตนสังกัด เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจทันที ตนขอยืนยันอีกครั้งว่า ที่ผ่านมาหลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้นที่วัด มันคือการเอาชื่อของตนไปแอบอ้างตลอด
ด.ต.เกษมสันต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวรู้สึกเสียใจ ที่ผ่านมาผมคอยช่วยเหลือวัด คอยให้คำปรึกษาวัด และคอยช่วยเหลือบรรดาพ่อค้าแม่ค้าให้มีที่ตั้งขายของมาตลอด ใครเดือดร้อนอะไร ผมก็ช่วยเหลือ ไม่เคยคิด ไม่เคยเรียกเก็บอะไรเลย ทำด้วยความเต็มใจ แต่ยังมากล่าวหาผมได้ลงคอ ซึ่งเรื่องนี้ เชื่อว่า มีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับวัด ต้องการที่จะกลั่นแกล้ง ก็ขอให้เลิกทำแบบนั้นนะ เพราะวัดหลวงพ่อเคลือบ เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ ใครทำไม่ดีอย่างไรแบบไหน ระวังมีอันเป็นไป ส่วนหลังจากนี้ หลังจากนี้ ทางต้นสังกัดตำรวจ จะมีการตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบผมๆ ก็ยินดีให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง.