ภาพจาก เฟซบุ๊ก Gee Khunkaew ผู้พบและถ่ายภาพปูทูลกระหม่อม
เกษตรกรชาวสวนยางบ้านขนุนคลี่ ม.4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ บันทึกภาพปูป่าที่พบในพื้นที่สวน และรอบๆ หมู่บ้าน พบปูแปลกคล้ายปูทูลกระหม่อม นำมาเผยแพร่ในโซเชียล หวังภาครัฐเข้ามาศึกษาเพื่อการอนุรักษ์
จากกรณี นายจีรพันธ์ ขันแก้ว อายุ 48 ปี ชาวบ้าน ม.1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เกษตรกรชาวสวนยางบ้านขนุนคลี่ ม.4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เจ้าของเฟซบุ๊ก Gee Khunkaew และ TikTok:@ geekhunkaew เผยแพร่คลิปวิดีโอและภาพนิ่งของปูป่าสีสันสวยงาม ที่มีพฤติกรรมธรรมชาติน่าเอ็นดู ทั้งการเคลื่อนไหวด้วยการเดินและวิ่งลงรูในน้ำ สร้างความสนใจให้แก่ผู้ที่พบเห็น พร้อมทั้งให้ข้อมูลของปูว่า น่าจะเป็นปูทูลกระหม่อมบ้าง ปูเจ้าฟ้าบ้าง ปูราชินีบ้าง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำการศึกษาข้อมูลเพื่อยืนยันสายพันธุ์ และนำไปสู่การอนุรักษ์ เนื่องจากปัจจุบันจากการศึกษาพบว่าจำนวนปูที่เคยพบในพื้นที่เริ่มลดลง เนื่องจากสภาพแวดล้อมและวิธีการทำการเกษตรในพื้นที่ที่เปลี่ยนไป การใช้สารเคมีในการเกษตรส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของปู
...
นายจีรพันธ์ กล่าวว่า จากการศึกษาของตนเองเชื่อว่า ปูที่พบน่าจะเป็นปูทูลกระหม่อม เนื่องจากมีลักษณะเหมือนมากที่สุด เนื่องจากมีลักษณะคือสีของกระดองที่เป็นสีม่วงเปลือกมังคุด บริเวณขอบเบ้าตาขอบกระดอง ขาเดินทั้ง 4 คู่ และก้ามหนีบทั้ง 2 ข้างจะเป็นสีเหลืองส้ม ปลายขาข้อสุดท้ายและปลายก้ามหนีบมีสีขาวงาช้าง และขนาดของปูมีความกว้างของกระดองประมาณ 3.5 เซนติเมตร ปูเพศผู้และเพศเมียจะมีลักษณะที่คล้ายกัน โดยจะมีส่วนคล้ายที่กันคือส่วนท้อง หรือที่เรียกว่าตะปิ้ง ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาคือลักษณะของปูทูลกระหม่อมจากข้อมูลที่ตนได้ศึกษามา สำหรับปูทูลกระหม่อมนั้นเป็นปูที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในปูน้ำจืดที่มีสีสันสวยงามชนิดหนึ่งของโลก
โดยมีการค้นพบ “ปูทูลกระหม่อม” ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2536 ในพื้นที่ "เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน" อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม โดยศาสตราจารย์ไพบูลย์ นัยเนตร อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติประเทศเนเธอร์แลนด์ และได้พบว่าเป็นปูน้ำจืดชนิดใหม่ของโลก อีกทั้งในปีดังกล่าว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีจะทรงเจริญพระชนมายุครบ 36 พรรษา ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นผู้นำและมีพระปรีชาสามารถในงานด้านวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้กราบทูลขอพระราชทานพระอนุญาตอัญเชิญพระนามของพระองค์มาเป็นชื่อของปูน้ำจืดชนิดนี้ และได้รับพระราชทานอนุญาตให้เรียกชื่อปูชนิดนี้ว่า "ปูทูลกระหม่อม" ซึ่งก็ได้กลายมาเป็นชื่อเรียกของปูชนิดนี้มาจนถึงปัจจุบัน
“ปูทูลกระหม่อม” ปูน้ำจืดที่มีสีสันงดงามอย่างมีเอกลักษณ์โดยศาสตราจารย์ไพบูลย์ นัยเนตร อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติประเทศเนเธอร์แลนด์ และได้พบว่าเป็นปูน้ำจืดชนิดใหม่ของโลก อีกทั้งในปีดังกล่าว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี จะทรงเจริญพระชนมายุครบ 36 พรรษา ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นผู้นำและมีพระปรีชาสามารถในงานด้านวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้กราบทูลขอพระราชทานพระอนุญาตอัญเชิญพระนามของพระองค์มาเป็นชื่อของปูน้ำจืดชนิดนี้ และได้รับพระราชทานอนุญาตให้เรียกชื่อปูชนิดนี้ว่า “ปูทูลกระหม่อม” ซึ่งก็ได้กลายมาเป็นชื่อเรียกของปูชนิดนี้มาจนถึงปัจจุบัน สำหรับไข่ของปูทูลกระหม่อมตัวเมีย มองแล้วคล้ายไข่ปลาแซลมอน
เกษตรกรชาวสวนยางที่ถ่ายภาพปูได้ กล่าวต่อว่า ในส่วนการดำรงชีวิตนั้น ปูทูลกระหม่อม จะขุดรูอยู่ในที่ชื้นในบริเวณที่มีต้นไม้ปกคลุมและมีแสงแดดรำไร ความลึกของรูขึ้นอยู่กับระดับน้ำใต้ดิน จะออกหากินในเวลากลางคืน และจะออกมาดักเหยื่อที่บริเวณรอบๆ ปากรูในรัศมีไม่เกิน 1 เมตร โดยอาหารจะเป็นพืชและสัตว์ เช่น เศษใบไม้ ไส้เดือน แมลงชนิดต่างๆ ช่วงเวลาผสมพันธุ์ของปูทูลกระหม่อมจะเริ่มมีการผสมพันธุ์เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน-เดือนกันยายน ที่จะเป็นช่วงฤดูฝน และในฤดูการผสมพันธุ์สีสันของปูทูลกระหม่อมจะเห็นได้เด่นชัดและมีความสวยงามยิ่งขึ้นอีกด้วย
...
นายจีรพันธ์ กล่าวอีกว่า หลังจากการผสมพันธุ์ประมาณ 4 เดือน ที่หน้าท้องของตัวเมียจะเริ่มมีไข่ประมาณ 10-35 ฟอง ในช่วงต้นเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน ไข่อ่อนเมื่อออกมาใหม่ๆ จะมีสีเหลืองอมส้ม มองแล้วคล้ายๆ ไข่ปลาแซลมอน และเมื่อไข่แก่เต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มปนเทาจนเกือบดำ ตัวอ่อนจะฟักออกจากไข่ในช่วงประมาณปลายเดือนเมษายน-เดือนพฤษภาคม และตัวอ่อนจะติดอยู่ที่หน้าท้องแม่ระยะเวลาหนึ่งจนกระทั่งเข้าสู่ฤดูฝน ลูกปูก็จะออกจากท้องแม่ และไปขุดรูใหม่อยู่อาศัยเอง สำหรับลักษณะพื้นอยู่อาศัยของปูทูลกระหม่อมนั้นมีสภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณ
เกษตรกรชาวสวนยางที่ถ่ายภาพปูได้ กล่าวด้วยว่า สำหรับคนที่สนใจและอยากชมปู สามารถเดินทางมาดูได้ที่บ้านขนุนคลี่ โดยให้คำแนะนำในการมาดูปูว่า “ควรเดินทางมาในวันที่มีฝนตกชุก เนื่องจากปูจะออกมาหากิน จะทำให้มีโอกาสได้เห็นปูจำนวนมาก ที่สำคัญระหว่างเข้าพื้นที่ดูปู ห้ามส่งเสียงดัง เนื่องจากปูชอบความเงียบ” นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่บ้านขนุนคลี่ เป็นที่อยู่อาศัยของปูที่มีสีสันสวยงามชนิดหนึ่งของโลก จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องช่วยการดูแลและอนุรักษ์ให้อยู่คู่ชุมชน เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชน และกลุ่มคนที่สนใจต่อไป.
...