พ่อเมืองประจวบฯ ตั้งคณะกรรมการพิจารณา เตรียมเปิดด่านสิงขร เพื่อหวังพลิกฟื้นเศรษฐกิจ การค้าชายแดนไทย-เมียนมา เต็มรูปแบบ ทั้งการท่องเที่ยว คาดสินค้านำเข้า ส่งออกจะโกยเงินปีละ 1,500 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 65 นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยส่วนราชการเดินทางลงพื้นที่จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร หมู่ 6 บ้านด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมือง ประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากสถานการณ์โควิดตั้งแต่ปี 2563 ส่งผลให้การค้าชายแดนไทย-เมียนมาชะงัก ยอดสินค้านำเข้าและส่งออกปีละพันกว่าล้านบาทสะดุด โดยสำรวจความพร้อมอาคารศุลกากร จุดตรวจช่องสิงขรของกองร้อย ตชด.146 และตลาดสิงขร เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดด่าน เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจการค้าชายแดน

ก่อนหน้านี้ ศูนย์สั่งการชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านด่านพม่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีคำสั่งระงับการเดินทางเข้า-ออก ของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรและช่องทางอื่นๆ ตลอดแนวชายแดน ตั้งแต่ปี 2563 เป็นการชั่วคราว ขณะนี้จังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการเปิดด่าน ให้บุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ เดินทางเข้าออกได้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการค้าและการท่องเที่ยว โดยคาดว่าจะกลับมาเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรเต็มรูปแบบภายในเดือนธันวาคมนี้ และคาดว่าจะมีมูลค่าการค้าชายแดนกว่าปีละ 1,500 ล้านบาท

...

สถานการณ์ดังกล่าวกระทบต่อการค้าชายแดนส่งผลให้บรรยากาศตลาดสิงขรซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักซบเซา จำนวนร้านค้าหลายสิบร้านต้องปิดตัวลงเนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่าย ประกอบกับไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมา

นางสุนิษา ปลอดโปร่ง แม่ค้าเฟอร์นิเจอร์ไม้ กล่าวว่า ก่อนหน้ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวเมียนมาเดินทางเข้าออกผ่านแดนได้ ส่งผลให้การค้าคึกคักอย่างมาก เงินสะพัดกระจายรายได้ในพื้นที่สูง โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีรถทัวร์ รถตู้ และรถส่วนบุคคลนักท่องเที่ยวมาจับจ่ายซื้อสินค้าหลากหลายชนิด ทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้ กล้วยไม้ สินค้าทางการเกษตร จิวเวลรี่ เครื่องประดับ และอื่นๆ โดยเฉพาะการค้าชุมชนที่ชาวบ้านชาวเมียนมานำสินค้าพื้นเมืองมาจำหน่าย สิ่งเหล่านี้เป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างถิ่นได้อย่างดี เชื่อว่าหากเปิดด่านสิงขรเต็มรูปแบบจะทำให้การค้าชายแดนคึกคักกว่านี้.