เจ้าของบ้านที่บางบัวทองขยาดเลิกปล่อยให้เช่าต่อแล้ว โดยคิดค่าเช่าไปตามวันที่อยู่จริง ขณะที่ครอบครัวที่เจอไฟลุกปริศนา ยังไม่ได้คำตอบ แต่ก็ต้องขนของย้ายกลับต่างจังหวัดทั้งที่มาอยู่ได้ไม่กี่วัน

ความคืบหน้าคดีไฟลุกไหม้ปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้กับครอบครัวหนึ่งที่ย่านอำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี ที่ถูกไฟปริศนาลุกไหม้ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้านเช่ากว่า 100 ครั้ง จนต้องย้ายหนีไปเช่าบ้านหลังใหม่อยู่อาศัย แต่หลังจากเช่าบ้านหลังใหม่อยู่ได้เพียงไม่กี่วัน คืนวันที่ 15 ส.ค.บ้านเช่าหลังใหม่ก็ถูกไฟลุกไหม้จากเสื้อผ้าที่แขวนอยู่กับราวตากผ้า จนกระทั่งความร้อนจากเปลวไฟทำให้เครื่องปรับอากาศละลาย ได้รับความเสียหาย ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเช่าหลังใหม่ที่ครอบครัว น.ส.ส้ม (นามสมมติ) มาเช่าพักอาศัยแล้วเกิดไฟลุกไหม้อีกครั้ง พบว่าทางครอบครัว น.ส.ส้ม กำลังขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ขึ้นรถกระบะเพื่อย้ายกลับภูมิลำเนาไปอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นแล้ว โดยไม่ยินยอมให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ใดๆ เพิ่มเติมอีก อ้างว่าจะต้องรีบทำเวลาในการเดินทาง

...

ต่อมา นางชมพู่ (นามสมมติ) เจ้าของบ้านเช่า ได้เดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อยของบ้านที่ให้ น.ส.ส้มและครอบครัวเช่าพักอาศัย ก่อนจะย้ายออกไปในเช้าวันนี้ว่า ตนเองไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าครอบครัวนี้ย้ายมาเช่าบ้านของตน เพราะเคยเกิดเหตุไฟลุกไหม้ปริศนามาก่อนแล้วจนต้องย้ายหนี ตนเห็นว่ามีเพื่อนบ้านมาแนะนำว่าครอบครัวนี้กำลังหาบ้านเช่าพักอาศัยอยู่ และมีเด็กๆ รวมอยู่ด้วยหลายคน ตนเห็นว่าเขาเดือดร้อนมาก็เลยเห็นใจและสงสาร ตกลงให้เขาเช่าบ้านหลังนี้อยู่อาศัยในราคากันเอง จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าเขาเป็นครอบครัวที่ย้ายหนีไฟลุกไหม้ปริศนามา และคืนวันที่เกิดเหตุเขาก็โทรมาแจ้งให้ตนทราบ

เจ้าของบ้านเช่า กล่าวต่อว่า ตัวเองก็รู้สึกตกใจและงงว่ามาเกิดไฟลุกไหม้ต่อได้ยังไงอีก เนื่องจากในบ้านของตนมีอุปกรณ์ตัดไฟลัดวงจร และสายไฟฟ้าภายในบ้านก็เพิ่งถูกเปลี่ยนใหม่ไปได้ไม่นาน ทำให้รู้สึกงงและสงสัยเป็นอย่างมาก ว่าไฟที่ลุกไหม้ขึ้นมาในครั้งนี้เกิดมาจากสาเหตุใดกันแน่ แม้ว่าตนจะไม่เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ก็ตาม แต่ก็ขอไม่หลบหลู่ดีกว่า จากนี้ไปตนเข็ดขยาดกับการให้เช่าบ้านแล้ว คงต้องเลิกปล่อยเช่าเก็บไว้พักอยู่อาศัยเองจะดีกว่า

นางชมพู่ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวก็ยังอดสงสัยถึงสาเหตุที่เกิดไฟลุกไหม้ไม่ได้ แต่ในบ้านก็มีเด็กอาศัยอยู่ถึง 5 คน ซึ่งอาจจะมีเด็กคนใดคนหนึ่งหรือไม่ ที่มีพฤติกรรมชอบแอบเล่นไฟ จนทำให้เกิดเหตุในทำนองนี้ ซึ่งที่ผ่านมาบ้านของตนก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อตนได้มาตรวจสอบสภาพบ้านก่อนที่จะรับคืนจากเขา ก็พบว่าเขาได้ทำความสะอาดให้เรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรเสียหาย นอกจากคราบเขม่าควันเพียงบางจุด ตนจึงรับคืนบ้านจากเขามา และคิดราคาค่าเช่าตามที่เขาได้มาพักอยู่อาศัยจริงแค่นั้น ไม่ได้คิดราคาอะไรเพิ่มเติม จากนี้ไปคงเลิกให้เช่าบ้านต่อโดยเด็ดขาด.