อัยการสั่งฟ้อง 6 ผู้ต้องหาคดี “แตงโม-นิดา” แล้ว แก๊งเพื่อนบนเรือสปีดโบ๊ตทั้ง 5 คน โดนข้อหาหลัก “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ไม่มีข้อหาฆาตกรรมตามคาด ศาลจังหวัดนนทบุรีนัดคุ้มครองสิทธิ์ 21 ก.ย. สอบถามแนวทางการต่อสู้คดีของผู้เสียหายและจำเลยในชั้นศาลพร้อมพูดคุยตัวเลขค่าเสียหายกับฝ่ายโจทก์ กลุ่มผู้ต้องหายื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดประกันตัวออกไปโดยไม่มีเงื่อนไข“กระติก-แซน” ประสานเสียง จ่อฟ้องพวกหิวแสงออกมาประโคมข่าวทำให้เสียชื่อเสียง
ผ่านมากว่า 5 เดือน สังคมยังคงให้ความสนใจในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวชื่อดัง ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตจมหายกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะล่องเรือปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อนชายหญิง 5 คน เหตุเกิดคืนวันที่ 24ก.พ. ก่อนจะพบศพในช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.พ. ใกล้ท่าเรือพิบูลสงคราม ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ต่อมาตำรวจดำเนินคดีอาญากับ 5 คนบนเรือ และ 1 กุนซือที่ปรึกษากฎหมาย จนกลายเป็นประเด็นดราม่าในสื่อโซเชียลมายาวนาน หลังเลื่อนสั่งคดีมา 3 รอบ ในที่สุดอัยการจังหวัดนนทบุรีมีคำสั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คนแล้ว
ที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 3 ส.ค. สื่อมวลชนทุกสำนักมาปักหลักรอรายงานข่าวผู้ต้องหา 6 คน คือ นายตนุภัทรหรือปอ เลิศทวีวิทย์ นายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ นายนิทัศน์ หรือจ๊อบ กีรติสุทธิสาทร นายวิศาพัช หรือแซน มโนมัยรัตน์ น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ และนายภีม หรือเอ็ม ธรรมธีรศรีจะเดินทางมารายงานตัวตามคำสั่งพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อนัดฟังคำสั่งในคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา หลังอัยการจังหวัดนนทบุรีเลื่อนการฟังคำสั่งมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรก 27 พ.ค.65ครั้งที่ 2 วันที่ 23 มิ.ย.65 และครั้งที่ 3 วันที่ 7ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากอธิบดีอัยการ ภาค 1 มีคำสั่งให้สอบเพิ่มบางประเด็นที่ยังไม่ครบประกอบกับตรวจสำนวนไม่แล้วเสร็จเพื่อให้สิ้นข้อสงสัย ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาและทนายความเกิดความไม่พอใจที่สั่งฟ้องล่าช้า
...
การมารายงานตัวของกลุ่มผู้ต้องหาในวันนี้ มีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย และเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ดูแลความเรียบร้อยบริเวณพื้นที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี พร้อมจัดรถตู้ของตำรวจ 2 คัน รอรับผู้ต้องหาจากอัยการจังหวัดนนทบุรี ไปส่งยังศาลจังหวัดนนทบุรี กระทั่งเวลา 09.00 น. กระติก อิจศรินทร์ เดินทางมาถึงเป็นคนแรก ตามด้วยปอ ตนุภัทร โรเบิร์ต ไพบูลย์ จ๊อบนิทัศน์ เอ็ม ภีม และแซน วิศาพัช มาถึงเป็นคนสุดท้าย
ต่อมาเวลา 09.45 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และ น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ หรืออัยการดาว อัยการจังหวัดนนทบุรี แถลงสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คนว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย.65พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรีได้รับสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 234/2565 ของตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ระหว่าง น.ส.ภนิดา ศิระยุทธโยธิน กับพวกรวม 3 คน เป็นผู้กล่าวหา นายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ ผู้ต้องหาที่ 1 นายไพบูลย์ หรือเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ ผู้ต้องหาที่ 2 นายวิศาพัช หรือแซน มโนมัยรัตน์ ผู้ต้องหาที่ 3 นายนิทัศน์ หรือจ๊อบ กีรติสุทธิสาธร ผู้ต้องหาที่ 4 น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้ต้องหาที่ 5 และนายภีม หรือเอ็ม ธรรมธีรศรี ผู้ต้องหาที่ 6
พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรีพิจารณาแล้วมีคำสั่งทางคดีสั่งฟ้อง นายตนุภัทร ผู้ต้องหาที่ 1 รวม 5 ข้อหาคือ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, เป็นผู้ทำการในเรือในตำแหน่งที่กฎข้อบังคับสำหรับการตรวจเรือกำหนดให้ต้องมีประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถ โดยมิได้รับประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถอันถูกต้อง, เท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใดๆให้สิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลใดๆลงในแม่น้ำ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนหรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน อันจะเป็นเหตุให้เกิดการตื้นเขิน ตกตะกอน หรือสกปรกโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ในประเภทที่ 2 (อัลปราโซแลม)
สั่งฟ้องนายไพบูลย์ ผู้ต้องหาที่ 2 รวม 4ข้อหา คือ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ใช้เรือที่ใบอนุญาตใช้เรือสิ้นอายุแล้ว, เป็นผู้ทำการในเรือในตำแหน่งที่กฎข้อบังคับสำหรับการตรวจเรือกำหนดให้ต้องมีประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถ โดยมิได้รับประกาศนียบัตรรับรองความรู้ ความสามารถอันถูกต้อง และเท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใดๆให้สิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลใดๆลงในแม่น้ำ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนหรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน อันจะเป็นเหตุให้เกิดการตื้นเขิน ตกตะกอน หรือสกปรกโดยไม่ได้รับอนุญาต
สั่งฟ้องนายวิศาพัชผู้ต้องหาที่ 3 รวม 1ข้อหา คือ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย สั่งฟ้อง นายนิทัศน์ ผู้ต้องหาที่ 4 รวม 3 ข้อหา คือ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด และเท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใด 1 ให้สิ่งของหรือสิ่งปฏิกูลใด 1 ลงในแม่น้ำ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนหรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน อันจะเป็นเหตุให้เกิดการตื้นเขิน ตกตะกอนหรือสกปรกโดยไม่ได้รับอนุญาต
สั่งฟ้อง น.ส.อิจศรินทร์ ผู้ต้องหาที่ 5 รวม 3 ข้อหา คือ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายและเพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง, ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้นเอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด
สั่งฟ้อง นายภีม ผู้ต้องหาที่ 6 รวม 2 ข้อหา คือ เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นแจ้งข้อความเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง, ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด
...
น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า อัยการจังหวัดมีความเห็นเพิ่มเติมจากที่พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนการสอบสวนมาให้ เราได้สั่งฟ้องเพิ่มผู้ต้องหาอีก 3 คน ผู้ต้องหาที่ 1 ได้สั่งฟ้องเพิ่มในข้อหาเสพวัตถุออกฤทธิ์ฯ ผู้ต้องหาที่ 4 และที่ 5 สั่งฟ้องเพิ่มข้อหากระทำโดยประมาท ผู้สื่อข่าวถามว่าจากพยานหลักฐานต่างๆยังไม่สามารถสั่งฟ้องผู้ต้องหาในเรื่องการฆาตกรรมใช่หรือไม่ น.ส.สุภาภรณ์กล่าวว่า ในเรื่องนี้ จากพยานหลักฐาน การพิจารณาจากคณะทำงานสำนักงานอัยการจังหวัด อัยการจังหวัด คณะทำงานสำนักงานอธิบดีอัยการ ภาค 1 และอธิบดี ภาค1วินิจฉัยตามข้อเท็จจริงพบว่าเป็นการกระทำโดยประมาท
เวลา 10.00 น. ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน อยู่ในห้องชั้นล่างสำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อเตรียมเดินทางไปศาลจังหวัดนนทบุรี จู่ๆมีนายสุทธิภาสน์ ศรีกู่กา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 ต.กำแพง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ในมือถือท่อนเหล็กห่อด้วยกระดาษและกระเป๋าใส่เอกสารปรี่เข้าไปในห้องอ้างว่า เดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร เพื่อนำหลักฐานสำคัญในคดีแตงโมมามอบให้กับอัยการ สร้างความตกตะลึงให้กลุ่มผู้ต้องหาที่รอฟังคำสั่งอัยการอยู่ภายในห้อง ถึงกับวงแตกเดินหนีไปอีกฝั่งของห้อง ก่อนที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจะเข้าล็อกตัวชายคนดังกล่าวออกมาตรวจค้นด้านนอก พบยาบ้า 1 เม็ด ห่อกระดาษฟอยล์ซุกในกระเป๋ากางเกง คุมตัวดำเนินคดีที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จากนั้นพนักงานอัยการ นำกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ขึ้นรถตู้ตำรวจที่มาจอดรอรับด้านหน้าสำนักงานเดินทางไปฟ้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี แต่ละคนมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้แสดงอาการวิตกกังวล มีทีมทนายความตามไปยื่นเรื่องขอประกันตัว
เวลา 13.00 น. ศาลจังหวัดนนทบุรี นั่งบัลลังก์เพื่อรับฟังคำฟ้องตามข้อกล่าวหา ศาลได้สอบคำให้การ โดยศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยทุกคนฟังแล้วสอบถาม ปรากฏว่านายตนุภัทรและนายไพบูลย์ ให้การยอมรับสารภาพในข้อหาไม่มีใบอนุญาตเดินเรือ ส่วนในข้อหาอื่นตามที่อัยการฟ้อง จำเลยทุกคนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลนัดคุ้มครองสิทธิ์วันที่ 21 ก.ย.พร้อมนัดผู้เสียหายและจำเลยมาสอบถามแนวทางการต่อสู้คดีในชั้นศาล รวมถึงเจรจาหาแนวทางเรื่องค่าเสียหาย ต่อมาทนายความได้ยื่นเงินสดประกันตัวลูกความออกไป หลักทรัพย์ประกันตัวแต่ละคนไม่เท่ากัน เนื่องจากข้อหาและอัตราโทษแตกต่างกันไป นายตนุภัทรใช้เงินสดจำนวน 160,000 บาท นายไพบูลย์ 120,000 บาท นายนิทัศน์ 210,000 บาท น.ส.อิจศรินทร์ 210,000 บาท นายวิศาพัช 120,000 บาท และนายภีม 90,000 บาท หลังได้รับการประกันตัว ทั้ง 6 คน เดินทางกลับทันที
...
นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน วิศาพัช กล่าวว่า วันนี้อัยการยื่นฟ้องข้อหาหลักคือประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนข้อหาฆาตกรรมที่มีการยื่นฟ้องไปก่อนหน้านี้มันไม่ใช่ ใครที่มาฟ้องคนบนเรือจะถูกฟ้องกลับแน่นอน ขณะนี้ได้เตรียมยื่นฟ้องเบื้องต้น 2 ราย ส่วนบุคคลอื่นๆกำลังพิจารณา วันนี้ศาลมีคำสั่งให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข นัดหน้า เป็นนัดคุ้มครองสิทธิ์ ในช่วงเช้าวันที่ 21 ก.ย. เป็นการสอบถามคำให้การ ทั้งคำให้การลอย และคำให้การตามประเด็นที่ต่อสู้ รวมทั้งเจรจาการคุ้มครองสิทธิ์ผู้เสียหายด้วย ตามหลักแล้วผู้เสียหายคือคุณแม่ของคุณแตงโมต้องมาเจรจาในวันดังกล่าว คาดว่าจะคุยเรื่องตัวเลข เพราะทุกคนได้เจอกัน ทั้งฝ่ายเราและฝ่ายโจทก์ ตนคาดเอาจากประสบการณ์ในการทำงานมากกว่าแต่ยังไม่ขอบอกรายละเอียด
กระติก อิจศรินทร์ กล่าวว่า รู้สึกโล่ง เพราะข้อเท็จจริงได้ยุติแล้ว ใครที่เคยพูดว่าเป็นการฆาตกรรมเตรียมรับผิดชอบคำพูดของตัวเองด้วย ผลที่ออกมาในวันนี้ไม่ได้เหนือความคาดหมาย ในใจลึกๆไม่อยากให้สั่งฟ้อง แต่ด้วยระบบของประเทศเราเป็นระบบกล่าวหา ตนก็เข้าใจ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ วันนี้ไม่ขอก้าวล่วงในส่วนของคดีเนื่องจากถึงศาลแล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลในการพิจารณาและเป็นหน้าที่ของเราที่จะต่อสู้ต่อไป ยังไม่อยากพูดอะไรมากเพราะมีคนนอกสำนวนจ้องจะเล่นงานเราอยู่
“ทุกวันนี้ที่ต้องออกมาพูดบ้างเพราะเมื่อก่อนที่เงียบมาตลอด 3 เดือนนั้น ตนรู้สึกแย่ คิดว่าอยากให้สังคมรับรู้บ้าง ใครจะเข้าใจหรือไม่ก็เป็นเรื่องของแต่ละคน ส่วนเรื่องของคุณแม่แตงโมที่ต้องมาคุยกันในวันที่ 21 ก.ย. สามารถคุยได้ ถ้าเจอหน้าก็ทักทายสวัสดีเหมือนปกติ” กระติกกล่าว
ด้านแซน วิศาพัช กล่าวว่า จากนี้ตนจะต่อสู้คดีไปตามขั้นตอนและไม่มีความกังวลใดๆ แต่จำเป็นต้องใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในการฟ้องร้องเอาผิดกลุ่มคนที่มากล่าวหา ตนพยายามจะเป็นตัวอย่างที่ดีว่าไม่ควรไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น หวังว่าคนที่พูดเก่งๆที่ด่าและแจ้งความตนนั้น ให้ยอมรับผลกรรมที่กระทำไว้ ส่วนถ้าจะมาขอโทษ ขอเจรจา ไม่จำเป็นต้องออกมาขอโทษ เก็บคำขอโทษไว้ไปใช้ในชั้นศาลแทนแล้วกัน
...