พระธีรธนัชณฤทธา เสาวภาคย์โชติรส พร้อมทนาย เข้าแจ้งความ สภ.พุทธมณฑล เอาผิดหมอปลากับพวก กักขังหน่วงเหนี่ยว ละเมิดสิทธิเสรีภาพ หมิ่นประมาทคณะสงฆ์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 20 พ.ค.65 ที่ สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พระธีรธนัชณฤทธา เสาวภาคย์โชติรส สำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตีสวนธรรมแสง เทียน ต.ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พร้อมด้วย นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความจาก กองบุญทนายความเพื่อปกป้อง และสืบทอดพระพุทธศาสนา ที่ปรึกษากฎหมายชมรมพิทักษ์พุทธศาสนานานาชาติ และ นายวิชัย ประเสริฐสุขสิริ องค์กรส่งเสริมและปกป้อง คุ้มครองพระพุทธศาสนา ได้เดินทางมาพบ ร.ต.ท.นรินทร รอดพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เพื่อแจ้งความกล่าวโทษ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา กับพวก ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ละเมิดสิทธิเสรีภาพ หมิ่นประมาทคณะสงฆ์ พ.ร.บ.2505 หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จนก่อให้เกิดความเสียหาย พร้อมกับมีการเผยแพร่ทางทีวีหลายช่อง การกระทำของนายจีรพันธ์ เพชรขาว น่าจะเป็นความผิดกฎหมาย

...

พระธีรธนัชณฤทธา เสาวภาคย์โชติรส ผู้เสียหายแจ้งความ เปิดเผยว่าในวันนี้ตั้งใจมาแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ที่ทำลายพระพุทธศาสนาและคณะ ที่ยกพวก มา โจมตี ทำให้อาตมาได้รับความเสียหายเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งอาตมา ได้นำพยานหลักฐานทั้งหมด ซึ่งมีแผ่นซีดีที่บันทึกเหตุการณ์และแผ่นภาพที่ปรินต์มาจากซีดีและคำพูด มายื่นมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เพื่อเป็นหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดีกับหมอปลา

พระธีรธนัชณฤทธา เสาวภาคย์โชติรส ยังเผยอีกว่าเมื่อช่วงเช้านี้ดูจากข่าวหนังสือพิมพ์และทีวี พบว่าทนายเดชา ได้ประกาศว่าจะเป็นทนายความให้กับหมอปลา จึงถือเป็นเรื่องดีที่อยากจะพิสูจน์ความจริง จึง นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของศาลให้พิจารณาว่าการกระทำของหมอปลานั้นทำถูกต้องหรือไม่ และอยากให้ทนายเดชามาว่าความให้หมอปลากันในชั้นศาล ว่าใครถูกผิดให้ศาลช่วยเป็นผู้ตัดสิน

พระสงฆ์ ผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า ในวันที่คณะของหมอปลาเข้ามา เนื่องจากมีรายการ โดยส่วนที่มาแอบถ่ายหรือมาบันทึกภาพขณะที่อาตมาบิณฑบาต ก่อนที่หมอปลาจะมานั้นสื่อต่างๆ ได้ออกนำเสนอไปแล้วจากนั้นเวลา 1 เดือน หมอปลาจึงจะยกกองทัพสื่อมา เหตุเกิดที่ด้านหลัง สภ.พุทธมณฑลนี้เอง แต่เมื่อเอาผิด อาตมาไม่ได้จึงไม่ได้นำเสนอ อาตมากลับไปคิดว่าขบวนการหมอปลาทำลายพระพุทธศาสนา ซึ่ง อาจมีเบื้องหน้าและเบื้องหลังอยู่จริง

จนกระทั่งเวลา 1 เดือนต่อมา หมอปลาได้นำเรื่องราวมาออกรายการ อาตมาได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานเพื่อมาดำเนินคดี ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย หากดูตามคลิป นางน้ำฟ้าภรรยาหมอปลา ได้เข้ามาตรวจย่าม ค้นรถของอาตมา เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ

1. เรื่องขับรถบิณฑบาตเป็นโลกะวัชชะ พฤติกรรมไม่เหมาะสม
2 .นำอาหารที่บิณฑบาตไปฝากไว้บ้านญาติโยม
3 .เรื่องอาตมาไปนอนบ้านสีกา

ในความเป็นจริงแล้วเรื่องขับรถอาตมามีใบอนุญาตขับรถตามกฎหมาย ส่วนเรื่องอาหาร อาตมาไปบิณฑบาตก็จะนำอาหาร มาแจกจ่ายญาติโยมและสุนัขตามกิจวัตร เป็นพระต้องมีเมตตาต่อผู้อื่น ส่วนเรื่องที่อาตมาไปนอนพักบ้านสีกานั้นก็ไม่เป็นเรื่องจริง อาตมาเข้าไปเพียง 10-20 นาที ก็ออกไปสอนหนังสือให้เด็กนักเรียน โยมที่อาตมาเข้าไปที่บ้านเป็นโยมแม่อุปถัมภ์อายุ 72 ปี เพิ่งไปผ่าตัดและนอนพักฟื้นอยู่ที่บ้าน รุกเดินไปไหนก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว แต่ด้วยเคยเป็นโยมอุปถัมภ์เมื่อไปเนี่ยมเห็นสภาพแล้วสงสาร หากปล่อยก็น่าจะเสียชีวิต อาตมาจึงเข้าไปเยี่ยมเยียนและนำอาหารที่บิณฑบาตมาไปให้ทาน อาตมาอยากถามว่าเป็นเรื่องผิดหรือ

...

ด้านนายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความ กองบุญทนายความเพื่อปกป้องและสืบทอดพระพุทธศาสนา ที่ปรึกษากฎหมายชมรมพิทักษ์พุทธศาสนานานาชาติ กล่าวว่า สำหรับวันนี้เป็นทนายมาแจ้งความดำเนินคดีกับหมอปลา ซึ่งจากการตรวจสอบจากหลักฐานต่างๆ แล้ว พบว่าหมอปลามีความผิดหลายกระทงที่สามารถดำเนินการได้ ข้อหาที่ได้แจ้งไว้ในเบื้องต้น มีข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ละเมิดสิทธิเสรีภาพ หมิ่นประมาทคณะสงฆ์ พ.ร.บ.2505 หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จนทำให้วงการสงฆ์ได้รับความเสียหาย พร้อมกันนี้ยังนำภาพเป็นคลิปวิดีโอ เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีและยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้จะให้ตำรวจ ตรวจสอบเพิ่มเติมกับผู้เกี่ยวกับเรื่องที่ กลุ่ม บุคคลดังกล่าวได้ทำรายงานไปถึงสำนักพุทธว่าเรื่องราวที่ร้องเรียนนั้นเป็นจริงหรือเท็จ จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดำเนินการด้วย.