ป้าต้อยและลุงหมู เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน จ.นนทบุรี แจงทุเรียนนนท์ยังมีอยู่ แต่ผลผลิตออกมาน้อย เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน และปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำเข้าสวน ยัน แม้ผลผลิตน้อย แต่ก็ไม่ขึ้นราคา ขายราคาเดิม
เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สวนทุเรียนป้าต้อย-ลุงหมู หมู่ 3 ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี สวนทุเรียนเชิงอนุรักษ์พันธุ์ทุเรียนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนนทบุรี เช่น ก้านยาว หมอนทอง ชะนี และกบสายพันธุ์พื้นบ้าน เนื้อที่ 4 ไร่ ที่รอดจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 54 ทำให้ผลผลิตทุเรียนนนท์เหลือน้อย ไม่พอต่อความต้องการผู้บริโภคที่อยากลิ้มลองรสชาติที่ขึ้นชื่อลือชา ผลผลิตที่ได้น้อยลงทำให้ทุเรียนเมืองนนท์มีราคาแพงมากขึ้นเป็นที่รู้กันดี
...
นางมะลิวัลย์ หาญใจไทย วัย 59 ปี และ นายสมนึก หาญใจไทย วัย 61 ปี หรือ ป้าต้อย-ลุงหมู สองสามีภรรยา อาชีพทำสวนทุเรียน ที่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นพ่อรุ่นแม่ กล่าวว่า สวนทุเรียนของตนถือว่าโชคดีมากที่รอดพ้นจากถูกน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 54 ทำให้ทุเรียนนนท์ยังไม่สูญพันธุ์ไปจากพื้นที่ แต่ปัจจุบันก็ยังมีปัญหาเรื่องน้ำทะเลหนุนทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีความเค็มสูง ต้องปิดท่อระบายน้ำไม่ให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้ามาในสวนเด็ดขาด เพราะความเค็มทำให้ต้นทุเรียนตายได้ จึงแก้ปัญหาด้วยการขุดบ่อดินปล่อยน้ำประปาลงบ่อทิ้งไว้ จึงสูบน้ำไปรดต้นทุเรียนได้
ป้าต้อย กล่าวว่า อีกทั้งปีนี้อากาศแปรปรวนมาก บางวันอากาศหนาว มีฝนตก และแดดแรง ทำให้ผลทุเรียนหลุดร่วง นอกจากนี้เลยต้องนำร่มมากางเพื่อไม่ให้ผลทุเรียนถูกแดดที่ร้อนจัด และยังต้องคอยเฝ้าระวัง นก หนู กระรอก ที่จะมากัดกินผลทุเรียนเสียหาย จึงต้องใช้ตาข่ายลวดห่อผลทุเรียนไว้ ทั้งนี้ถึงแม้ผลผลิตทุเรียนปีนี้ได้น้อย แต่จะไม่ขึ้นราคา ยังคงขายในราคาเดิม.