คึกคัก งานประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ "ปลดล็อค กัญชา กัญชง สร้างสุขภาพ สร้างรายได้" ที่ จ.กาญจนบุรี มีคนเข้าร่วมนับหมื่น ขายสินค้ากว่า 6 แสนบาท นักวิชาการเชียร์ ต่อยอดทั้งด้านการแพทย์-สร้างรายได้ ส่วนประชาชนยอมรับได้รับความรู้เพียบ

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.64 ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 45 อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี บรรยากาศภายในงานประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ครั้งที่ 1 เขตสุขภาพที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นเป็นวันสุดท้ายของงาน มีผู้สนใจเข้าร่วมงานเพื่อนำความรู้นำไปต่อยอดธุรกิจกัญชา กัญชงของตนเองคึกคัก ซึ่งมีการบรรยายในหัวข้อ "การขับเคลื่อนกัญชาทางการแพทย์ในครัวเรือนและชุมชน" โดย รศ.ดร.สุรพงษ์ วงศ์ใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรของสหประชาชาติ วิทยาลัยการแพทย์ตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จากนั้นเป็นการอภิปราย เรื่อง "แนวทางการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวกัญชาชุมชน" โดย ภญ.นวรรณ พวงมาลัย กรรมการผู้จัดการ บจก. อินโนเวทีฟ ฟาร์มา เฮิร์บส นายดิษยวรินทร์ กิจฉลอง ฝ่ายวิชาการเกษตร จังหวัดกาญจนบุรี

ส่วนในช่วงบ่ายมีการอภิปรายการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ทางการแพทย์แผนไทยในเขตสุขภาพ เขต 5 โดย ภญ.ดลิชา ชั่งสิริพร เภสัชกรชำนาญการ โรงพยาบาลอู่ทอง พท.สันทัด ชมภูพงษ์ แพทย์แผนไทยปฏิบัติการ โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี มีประชาชนผู้ให้ความสนใจร่วมฟังการอภิปรายกันเป็นจำนวนมาก

...

ขณะที่ ลานกิจกรรมมีการฝึกปฏิบัติ การทำยาหม่องผสมกัญชา, การทำพิมเสนน้ำผสมกัญชา และการทำพิมเสนน้ำผสมกัญชา โดยวิทยากรจากโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์พนมทวน จ.กาญจนบุรี ส่วนบรรยากาศภายในงานนั้น มีกลุ่มวิสาหกิจชุมชน นำผลิตภัณฑ์กัญชามาวางจำหน่าย ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจกันอย่างคึกคัก

โดย รศ.ดร.สุรพงษ์ วงศ์ใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรของสหประชาชาติ วิทยาลัยแพทย์แผนตะวันออก กล่าวว่า การปลดล็อคกัญชาเป็นการเปิดโอกาสการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการสร้างเศรษฐกิจ เพราะถูกแช่มานานโดยการเปิดตรงนี้ได้ใช้ประโยชน์กัญชาในทางการแพทย์ มีประโยชน์มากมาย เพราะมีภูมิปัญญาของแพทย์แผนไทย ตำรับยาไทย กว่า 300 ตำรับ ถือเป็นชาติที่ใช้ยากัญชามากที่สุดในโลก แสดงว่าบรรพบุรุษไทยมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ และใช้กัญชาเป็นยารักษาโรคและส่งเสริมสุขภาพมาอย่างยาวนาน บางครั้งใช้ในวิถีชีวิตประจำวัน ใช้ในการประกอบอาหารทำให้อาหารน่ารับประทานเพื่อความอร่อย ซึ่งกัญชาไม่มีฤทธิ์เมาเป็นเพราะใช้อย่างถูกวิธี สามารถนำมาทำอาหาร เครื่องดื่ม หรือยารักษาโรคได้เป็นอย่างดี

"การใช้กัญชาอย่างถูกต้องนั้น ควรอิงภูมิปัญญาไทยแพทย์แผนไทย ภูมิปัญญาพื้นบ้านที่เราใช้กันมาอย่างยาวนานและไม่เกิดอันตราย ทำให้ผู้ป่วยสามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้ การปลดล็อคกัญชานำมาซึ่งประโยชน์มหาศาล เป็นการเปิดใหม่ทางองค์ความรู้ที่ทรงคุณค่าของประเทศไทย และจะเป็นการต่อยอดเรื่องความต้องการของตลาดโลก ทำให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย รัฐบาลต้องเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนต่อไป เช่น การประชุมเชิงวิชาการในครั้งนี้เป็นเรื่องดี เพราะทำให้ประชาชนที่สนใจเรื่องกัญชาได้เข้ามาร่วมฟัง แสดงความคิดเห็นข้อซักถามต่างๆ ผู้ประกอบการหรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเอง ได้นำผลิตภัณฑ์มาโชว์ศักยภาพ ทำให้เห็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาสร้างองค์ความรู้ให้ประชาชน ซึ่งทุกฝ่ายต้องไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อทุกคนที่สนใจเรื่องของกัญชาจะได้เข้าถึง และเป็นการเปิดโอกาสของประเทศไทยในเรื่องนี้ อย่างมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นต่อไป" รศ.ดร.สุรพงษ์ กล่าว

ด้าน นายเถลิงศักดิ์ สุวรณณรักษ์ ผู้เข้าร่วมงาน เปิดเผยว่า การเดินทางมาร่วมงานในวันนี้ ได้รับความรู้หลายอย่าง ทั้งเรื่องวิชาการ ความเคลื่อนไหวของกัญชาว่ามีทิศทางอย่างไร ส่วนในมุมมองตนที่มีต่อเรื่องกัญชา อยากให้ประชาชนได้เข้าถึงการศึกษารูปแบบความก้าวหน้าของกัญชาได้เร็วขึ้น สามารถต่อยอดเป็นธุรกิจได้ ประชาชนทำผลิตภัณฑ์ได้ เพื่อสร้างรายได้ให้ครอบครัวหรือชุมชน

ด้าน นางปราณี ศรีจับ เปิดเผยว่า ในฐานะประชาชนอยากทราบว่า การปลดล็อคจะดำเนินการได้อย่างเร็วเมื่อใด ที่ให้ประชาชนได้เข้าถึงกัญชาตามข้อกำหนดที่รัฐจะดำเนินการ วันนี้มาเข้าร่วมงานได้รับความรู้ทางวิชการ ได้ทราบข้อมูลการใช้กัญชาเพิ่มขึ้น ได้เรียนรู้การทำผลิตภัณฑ์กัญชาว่ามีวิธีการอย่างไร ส่วนเรื่องการให้ชาวบ้านได้ปลูกกัญชาในครัวเรือนได้ ถือเป็นเรื่องดี หากปลูกได้จะนำมาปรุงยา ปรุงอาหาร หรือพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ไว้ในใช้ในครัวเรือน หรือสามารถจำหน่ายได้ อยากให้เร่งปลดล็อคให้เร็ว ประชาชนจะได้เข้าถึงกัญชาได้แท้จริงต่อไป

...

ขณะที่ นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนนิคมสมุนไพรสัมพันธ์ตะวันตก และประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์อภิบาลด้วยพืชสมุนไพรแห่งริเวอร์แคว กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการจัดงาน บรรยากาศในงานประชาชนให้ความสนใจในด้านของธุรกิจกัญชา ด้านของความรู้กัญชามากพอสมควรเทียบเท่ากับวันแรก วันนี้มีการสัมมนาเชิงวิชาการโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน คาดว่ามีผู้เข้าชมโดยประมาณไม่ต่ำกว่า 2,000 คน ส่วนบรรยากาศการซื้อขายของวัสดุเครื่องดื่มของกัญชาเฉลี่ยในแต่ละในบูธ ในแต่ละแห่งขายจนหมดเกลี้ยง ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนผู้มาเที่ยวงาน เช่น เครื่องดื่มในกลุ่มศูนย์อภิบาลพืชสมุนไพรแห่งริเวอร์แคว อลิซมอนสเตอร์ ขายได้กว่าบูธละ 10,000 บาททุกวัน เสียงตอบรับจากผู้ร่วมงานถือว่าเป็นการจัดงานที่ดี ให้ประโยชน์ และให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างมาก

นายวิศารท์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้สนใจเรื่องของกัญชาในการเสวนาถือว่ามีความสำคัญจริงๆ และให้ความรู้ได้มาก วิทยากรทรงคุณวุฒิมีความรู้ความสามารถมาก และผู้เข้าชมเสวนาในห้องประชุมเต็มหมดทุกที่นั่ง รวมถึงร้านค้าขายสินค้าหมดทุกวันจนไม่พอขายต้องเตรียมของมาขายเพิ่ม คาดว่าในแต่ละบูธสามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อ 1 ร้านค้าต่อ 1 วัน คาดว่าวันนี้จะมีผู้เข้าชมมากกว่าทุกๆวัน เนื่องจากเป็นวันหยุดที่หลายฝ่ายอาจใช้เวลาว่างมาศึกษาเรื่องของกัญชา ซึ่งจะทำให้ร้านค้าต่างๆมีรายได้ดีมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน

"สำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายนิคมสมุนไพรสัมพันธ์ตะวันตก ที่มีเครือข่ายอยู่กว่า 400 แห่ง จะต่อยอดธุรกิจปลายน้ำในด้านสินค้า ยา วัสดุปลูกกัญชา และอื่นๆจำนวนมากที่จะสามารถต่อยอดออกไปได้อีก การจัดงานครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในข้อกฎหมาย และเงื่อนไขการปลูกกัญชาให้ถูกต้อง วิสาหกิจชุมชนต่างๆใน จ.กาญจนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ได้ความรู้ความเข้าใจเรื่องกัญชาและวัสดุกัญชา ส่วนผู้ผลิตกัญชาอยู่แล้วจะได้การต่อยอดทางธุรกิจของกัญชา งานครั้งนี้นับว่าเป็นประโยชน์สูงสุดของประชาชนจริงๆ เป็นนิมิตใหม่สำหรับการปลูกกัญชา และการปลดล็อคทางกัญชา" นายวิศารท์ กล่าว

...

สำหรับการจัดงาน "ปลดล็อค กัญชา กัญชง สร้างสุขภาพ สร้างรายได้" ตลอด 3 วัน มีผู้สนใจเข้าร่วมงานรวม 10,407 คน มูลค่าการจำหน่ายสินค้าสะสม ยอดรวม 605,280 บาท การให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ผู้รับบริการ 194 ปริมาณการจ่ายยากัญชาสะสม 694 หน่วย