แม่เพิ่งรู้แตงโมมีกรมธรรม์ประกันชีวิต 1 ล้านบาท ระบุชื่อผู้ ได้รับผลประโยชน์เป็นลูกสาวกระติก เตรียมให้ทนายยื่นคัดค้าน พร้อมลุยค้นเอกสารธุรกรรมทางการเงินของลูกทั้งหมด บริษัทประกันเตรียมเช็คสั่งจ่ายไว้แล้ว รอผู้มีสิทธิ์มารับ ชี้ทายาทยื่นเรื่องค้านได้แต่บริษัทจะพิจารณาความประสงค์ของผู้เอาประกันเป็นหลัก แนะแสดงความจริงใจคืนเงินให้แม่ สับเละกระติกโกหกคำโตต่อหน้าสื่อ ผบ.ตร.เรียกประชุมเร่งคลี่คดี มั่นใจปิดจ๊อบได้แน่ พบข้อมูลใหม่แตงโมไม่ได้นั่งฉี่ท้ายเรือ แต่ยืนจิบไวน์อยู่กับแซนแล้วโรเบิร์ตขับเรือกระชากจนหงายหลังร่วงตกน้ำสภาพขาคร่อมกับเครื่องเรือ นำสปีดโบ๊ตมรณะล่องเจ้าพระยาเปรียบเทียบความเร็วช่วงเวลาและระยะทางตามจีพีเอส
ปมปริศนาการเสียชีวิตของแตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวชื่อดังที่พลัดตกสปีดโบ๊ตขณะล่องเรือกับกลุ่มเพื่อนชายหญิงรวม 6 คน จมหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงท่าเรือพิบูลสงคราม 1 กับสะพานพระราม 7 อ.เมืองนนทบุรี เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ. พบศพช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.พ. ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานพิสูจน์ความจริงตามคำให้การของกลุ่มเพื่อนที่ระบุว่าแตงโมไปนั่งปัสสาวะท้ายเรือก่อนพลัดตกลงไป ขณะที่โลกโซเชียลยังกังขาปมพิรุธหลายเรื่อง ดาหน้าขุดคุ้ยเพื่อนทั้ง 5 คนแตกประเด็นออกไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่านายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ เจ้าของเรือ นายไพบูลย์ หรือโรเบิร์ต ตรีกาญจนานันท์ และ น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ ผจก.ส่วนตัวของแตงโม เข้ากราบขอขมานางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโมแล้วก็ตาม แต่แม่แตงโมยังไม่อภัยกระติก หลังทั้งคู่พูดจาโต้เถียงปะทะคารมกันอย่างดุเดือด
...
แม่เพิ่งรู้เรื่องประกันชีวิต 1 ล้าน
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 2 มี.ค. หลังจากแอนนา และฮิปโป สาวสองเพื่อนสนิทของแตงโมออกมาเปิดอีกประเด็นที่น่าสนใจคือเรื่องเงินประกันชีวิต ที่แตงโมมีกรมธรรม์ประกันชีวิตจากอุบัติเหตุ 1 ล้านบาทได้รับจากรายการหนึ่งที่เคยไปออกเมื่อเกือบ 1 ปีที่แล้ว โดยแตงโมระบุชื่อผู้ได้รับผลประโยชน์คือลูกสาวของกระติก ซึ่งเป็นลูกบุญธรรมของแตงโม เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโมเผยว่า เพิ่งทราบเรื่องนี้ แม่มีสิทธิ์ที่จะยื่นคัดค้าน กำลังให้ทนายความตรวจสอบ ลูกสาวกระติกเพิ่งอายุ 6 ขวบ แตงโมยังไม่ได้แจ้งรับเป็นลูกบุญธรรมจึงยังไม่มีเอกสารใดๆรับรองตามกฎหมาย ดังนั้นผลประโยชน์หลังเสียชีวิตจึงควรต้องตกเป็นของทายาทหรือบุคคลในครอบครัว
สับเละกระติกโกหกต่อหน้าสื่อ
แม่แตงโมยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เมื่อคืนกระติกพูดต่อหน้าแม่บอกว่าว่ายน้ำไม่เป็น แต่มีคลิปออกมาเผยแพร่ตามสื่อว่าว่ายน้ำเก่งเป็นปลา แถมยังเอาลูกสาวขี่หลังไว้ด้วย อยากให้สื่อช่วยชั่งน้ำหนักว่านี่คือการโกหกต่อหน้าสื่อมวลชน และยังไปเชื่อมโยงกับเรื่องประกันที่แม่สงสัยว่าทำไมถึงเพิ่งเปิดเผยว่ามีประกันตัวนี้ หลังจากแตงโมเสียชีวิตไปแล้ว แม่ไม่รู้ว่าแตงโมมอบอะไรให้ลูกกระติกบ้าง
ลุยค้นเอกสารธุรกรรมแตงโม
นางภนิดาเผยต่อไปว่า ตอนที่แตงโมยังมีชีวิตถ้าจะซื้อของอะไรที่มีราคาแพงให้ลูกกระติก จะต้องบอกแม่ก่อนทุกครั้ง ให้แม่เป็นคนไปซื้อ อย่างเปียโนราคา 3,000 บาท แม่ก็เป็นคนไปซื้อให้ตอนวันเกิดลูกกระติก แต่เรื่องประกันนี้แม่ไม่รู้เลย จึงตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้ว่าแตงโมเป็นคนทำประกันและเซ็นเอกสารเองจริง ส่วนรายละเอียดในกรมธรรม์ แตงโมอาจไม่ได้เป็นคนกรอก โดยมีกระติกเป็นผู้ดูแลจัดการให้ เพราะปกติแตงโมจะงานยุ่งมากขนาดจะโทร.หาแม่ยังไม่ค่อยมีเวลา หลังจากนี้แม่จะไม่เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี แล้ว แต่จะเดินหน้าเรื่องการตรวจสอบเอกสาร ธุรกรรม รวมถึงประกันต่างๆที่แตงโมทำเอาไว้ว่ามีอะไรบ้าง จะปรึกษากับทนายความด้วย เพราะบางเรื่องมีความซับซ้อนจำเป็นต้องให้ทนายเข้ามาช่วยเหลือ
บริษัทประกันเตรียมเช็คให้แล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามไปที่บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่ทำประกันชีวิตให้แตงโม ได้รับการเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุผู้บริหารของบริษัททิพยประกันภัยได้แจ้งให้ฝ่ายสินไหมประกันภัยสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล ตรวจสอบว่านางเอกสาวมีกรมธรรม์กับบริษัทหรือไม่ตามขั้นตอนปกติ หลังการตรวจสอบพบว่า มีประกัน 1 ฉบับเป็นประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ครอบคลุมไปถึงการฆาตกรรม มีทุนเอาประกัน 1 ล้านบาท คุ้มครองตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 4 เมษายน 2565 ระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์คือ “น้องอีสเตอร์” ลูกสาวของกระติกและเป็นลูกบุญธรรมของแตงโม ขณะนี้บริษัทเตรียมเช็คสั่งจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ผู้รับผลประโยชน์เรียบร้อยแล้ว รอเพียงการมาใช้สิทธิ์ของผู้รับผลประโยชน์ตามที่ระบุในกรมธรรม์หรือผู้แทนในกรณีที่เป็นผู้เยาว์ มาติดต่อรับเงินเท่านั้น
ค้านได้แต่ยึดผู้ประกันเป็นหลัก
พล.ต.ต.ประภาส ปิยะมงคล ผู้ไกล่เกลี่ยชำนาญการ (บุคคลภายนอก) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยถึงกรณีที่แตงโมยกผลประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิตให้ลูกสาวของกระติก หากมีทายาทสายตรงของแตงโมมายื่นร้องคัดค้านการรับผลประโยชน์ได้หรือไม่ว่า ทายาทโดยชอบด้วยกฎหมายสามารถยื่นคัดค้านได้ แต่ทางบริษัทจะต้องพิจารณาจากความประสงค์ของผู้เอาประกันเป็นหลักว่ามีการระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นทายาทตามกฎหมายหรือไม่ก็ตาม
ผู้รับยกสิทธิ์คืนให้ทายาทได้
เมื่อถามว่าหากพิสูจน์ได้ว่าผู้รับผลประโยชน์เป็นผู้ฆาตกรรมหรือมีส่วนในการตายของผู้เอาประกัน จะมีผลกับการรับผลประโยชน์หรือไม่ พล.ต.ต.ประภาสกล่าวว่า ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หมวด 3 ประกันชีวิตมาตรา 895 วงเล็บ 2 ผู้รับประโยชน์ฆ่าผู้เอาประกันภัยตายโดยเจตนา บริษัทจะไม่จ่ายผลประโยชน์ให้แก่ผู้รับประโยชน์ที่เป็นคนฆ่า แต่จะจ่ายค่าเวนคืนกรมธรรม์ (หักด้วยหนี้สินกรมธรรม์ ถ้ามี) หรือคืนเบี้ยประกันภัยที่ชำระมาแล้วทั้งหมดให้แก่ผู้รับประโยชน์คนอื่นๆ ตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ ส่วนผู้รับผลประโยชน์ สามารถยกสิทธิ์ คืนให้ทายาทสายตรงตามกฎหมายของผู้เสียชีวิตได้ แล้วแต่จะเห็นสมควร
...
“ธัญญ่า” ยันแตงโมเซ็นชื่อเอง
ด้านธัญญ่า-ธัญญาเรศ รามณรงค์ เปิดเผยข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวกลางรายการโหนกระแสยืนยันว่า เป็นกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุของบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่แตงโมได้จากการมาเป็นแขกรับเชิญในรายการ แตงโมเป็นผู้เซ็นชื่อด้วยตัวเอง พร้อมกับใส่ชื่อลูกสาวของผู้จัดการส่วนตัวเป็นผู้รับผลประโยชน์ เป็นการคุ้มครองระยะเวลา 1 ปี ปัจจุบันผ่านมาแล้ว 10 เดือน ได้คุยกับบริษัทประกันเรียบร้อยแล้วว่า ตอนนี้อยู่ที่ผู้รับผลประโยชน์จะติดต่อมาตอนไหนเท่านั้น ทางบริษัทเตรียมเงินไว้เรียบร้อยแล้ว
“กรรชัย” แนะกระติกคืนเงินแม่
ขณะที่ทนายความชื่อดังที่มาร่วมรายการโหนกระแสทั้งทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายรณรงค์ แก้วเพชร และทนายเกิดผล แก้วเกิด วิเคราะห์แนวทางตามข้อกฎหมายว่า ถ้ากระติกจะไปรับเงินประกัน ต้องไปเอาใบมรณบัตรกับคุณแม่ของแตงโมก่อน คิดว่าคุณแม่คงไม่ให้ ต้องไปยื่นขอกับสำนักงานเขตเอง และถึงได้เงินมา กระติกก็นำเงินไปใช้ไม่ได้อยู่ดีเพราะเป็นเงินของลูกสาวต้องไปร้องขอต่อศาลต่อไป ทั้งนี้ หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ยังเปิดเผยในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ว่า เมื่อเช้ามีโอกาสได้คุยกับกระติก ได้ยินเสียงเด็กสาวพูดกับผู้เป็นแม่ทำนองว่า “แม่ไม่ต้องร้องไห้แล้ว” ส่วนประเด็นเรื่องกรมธรรม์ประกันชีวิต แนะนำไปว่าควรจะคืนเงิน 1 ล้านบาทที่ได้มาให้กับแม่ของแตงโมเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจ
...
เรียกสอบเจ้าของโรงจอดเรือ
ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายธนกฤต หรือบอล วงศ์สุวรรณ เจ้าของอู่จอดเรือ NBC BOAT CLUB ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี สถานที่จอดเรือสปีดโบ๊ตลำที่เกิดเหตุ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำในคดี นายธนกฤตกล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่ได้มาให้ปากคำตำรวจเนื่องจากยังไม่ว่าง วันนี้มาให้ปากคำในเรื่องทั่วไปเพราะตำรวจมาสอบถามรายละเอียดไปแล้วทั้งหมดตั้งแต่วันเกิดเหตุ เพียงแต่ยังไม่ได้เข้ามาให้ปากคำอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้วันที่เกิดเหตุได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ตอนเวลา 22.34 น. ว่ามีคนตกเรือลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ให้นำเรือออกไปช่วยค้นหา ตนเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุเวลา 23.00 น. หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนแตงโมนั่งเรือกลับเข้ามาที่อู่ 5 คนเหตุการณ์ปกติทุกอย่าง ส่วนแก้วไวน์ที่พบในเรือตนไม่ทราบ ลักษณะทั่วไปก็เหมือนลูกค้าคนอื่นเป็นเรื่องปกติในการรีแลกซ์พักผ่อน ตอนที่แตงโมตกน้ำไม่มีใครทราบกันเลย สำหรับเรือลำนี้จะมีเกียร์ 3 สเต็ปคือเดินหน้า เกียร์ว่าง และถอยหลัง ถ้าเกียร์ว่างใบพัดจะหยุดหมุน
ทยอยจำลองเหตุเกือบครบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ช่วงค่ำวันที่ 1 มี.ค. ตำรวจนำตัวกระติก ปอ และจ๊อบ ทยอยจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงตามที่ให้ปากคำ โดยลงเรือไปทีละคนออกจากท่าเรือพิบูลสงคราม 3 (ท่าน้ำนนท์) มุ่งหน้าไปที่สะพานพระราม 8 ที่กลุ่มเพื่อนถ่ายรูปกัน ก่อนจะย้อนกลับมาจุดแตงโมพลัดตกน้ำ กลางแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงเลยสะพานพระราม 7 มาก่อนถึงท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ให้แต่ละคนยืนตามตำแหน่งในลำเรือขณะเกิดเหตุพร้อมเล่าเหตุการณ์ว่าตอนนั้นทำอะไรอยู่และเห็นแตงโมพลัดตกน้ำหรือไม่ ยังเหลืออีกคนเดียวคือโรเบิร์ตที่ยังไม่ได้มาจำลองเหตุการณ์ด้วย
...
แม่เหน็บว่ายน้ำพลิ้วเป็นปลา
ในช่วงบ่าย นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อขอรับเอกสารสำคัญบางอย่างที่ลืมไว้ตอนเข้าให้ปากคำ ก่อนเดินทางกลับผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นคลิปที่กระติกว่ายน้ำหรือไม่ นางภนิดากล่าวว่า “กระติกว่ายน้ำเป็น แม่เห็นเขาว่ายน้ำพลิ้วเป็นปลาเลย แต่เขามาบอกแม่และผู้สื่อข่าวว่า ว่ายน้ำไม่เป็น เขาโกหกพวกคุณเลยอ้างว่าไม่ได้ลงไปช่วยแตงโม ขณะนี้แม่ยังมีความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องประกันชีวิตที่น้องโมทำไว้ แม่ต้องปรึกษาทนายความก่อน” ก่อนจะขึ้นรถเดินทางกลับ
ผบ.ตร.เรียกประชุมเร่งคลี่คดี
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีการพลัดตกน้ำเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม-นิดา เชิญ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.บช.ภ.1 พล.ต.ต. หญิง ชุติมา ชัยมุกสิก ผบก.พฐ.1 และพนักงานสอบสวนในคดี ก่อนการประชุม พล.ต.ท.จิรพัฒน์เผยว่า เตรียมผลการชันสูตรและความคืบหน้าของคดีมารายงาน ผบ.ตร. หลังจากก่อนหน้านี้กำชับให้เร่งคลี่คลายคดีและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยจำลองเหตุการณ์ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ไปแล้ว นอกจากนี้ ยังรายงานผลตรวจชันสูตรเบื้องต้นจากแพทย์นิติเวช ส่วนจะดำเนินคดีใครเพิ่มเติมยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
ล่องเรือเทียบเวลาตามจีพีเอส
ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชม. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผยว่า ผบ.ตร.เรียกคณะทำงานมาพบเพื่อรายงานตามที่เคยสั่งการไว้แล้วในหลายๆเรื่อง กำชับดำเนินการทุกอย่างให้รัดกุมรอบคอบและเร่งรัดติดตามผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์และพิสูจน์หลักฐาน วันนี้ได้ตอบประเด็นหลายเรื่องเคลียร์ไป และจะนำเรือลำจริงไปทดลองอีกครั้งหนึ่งเพื่อตรวจสอบพิกัดเวลาที่ได้รับจากจีพีเอสมาให้ถูกต้องตามเวลาที่เกิดขึ้นจริง การตรวจซ้ำจะทำให้ได้ประโยชน์เพราะจะทำให้รู้กำหนดเวลา สถานที่ ความเร็ว คลื่นของเรือ รวมทั้งเสียงเครื่องยนต์เรือ เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ไม่ฟันธงฆาตกรรม-อุบัติเหตุ
ผู้ช่วย ผบ.ตร.เผยต่อไปว่า ตำรวจไม่ได้ทำงานล่าช้า แต่บางอย่างต้องอาศัยเวลา โดยเฉพาะผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์และการพิสูจน์หลักฐานเพื่อให้เกิดความรัดกุมรอบคอบ สามารถเก็บรวบรวมพยานหลักฐานได้พอสมควรที่จะพิสูจน์คลี่คลายคดีได้ ส่วนการตรวจร่างกายผู้ที่อยู่บนเรือไม่ได้ล่าช้าหรือบิดพลิ้ว เพราะสามารถตรวจพิสูจน์ได้อยู่แล้ว ผลตรวจเลือดยังไม่ออก กำลังเร่งรัดอยู่ ส่วนการตรวจสอบโทรศัพท์ทั้ง 5 คน บก.ปอท.รายงานมาส่วนหนึ่งแล้วเป็นหลักฐานทางคดีที่ดำเนินการอยู่ ยังไม่พบความขัดแย้ง จะนำมาประมวลผลส่วนไหนที่สอดคล้องกันก็เป็นส่วนหนึ่ง ส่วนที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันก็ตรวจสอบให้ละเอียดมากขึ้นเพื่อให้เกิดความชัดเจน เมื่อถามว่า ตำรวจให้น้ำหนักไปในประเด็นอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรมมากกว่ากัน พล.ต.ท.ประจวบตอบว่า ยังคงดำเนินการทั้ง 2 ส่วน ต้องรอผลการตรวจยืนยันจากนิติวิทยาศาสตร์
ยันภาพศพไม่ได้หลุดจาก ตร.
ผู้สื่อข่าวถามถึงภาพศพที่หลุดออกมาสู่โซเชียลอาจมาจากตำรวจ พฐ. พล.ต.ท.ประจวบยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่มีหลุดแน่นอน เมื่อถามต่อว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิก็ยืนยันว่าภาพไม่ได้หลุดออกมาผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ฝากสื่อมวลชนช่วยกันดูด้วย เราสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้วว่าใครโพสต์ลง ตำรวจจะเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวน แต่ยืนยันว่าภาพไม่ได้หลุดมาจากตำรวจแน่นอน ส่วนกรณีภาพจากโซเชียลที่นายจ๊อบยื่นมือออกไปทำอะไรสักอย่างบริเวณทุ่นท้ายเรือ พล.ต.ท.ประจวบกล่าวว่า จากระบบจีพีเอสของเรือที่ตำรวจได้รับมา บ่งชี้ได้ถึงจุดพิกัดหรือระยะทางความเร็ว เสียงต่างๆที่แจ้งมาตรงตามข้อเท็จจริงหรือไม่จะต้องมาดูกัน รวมถึงหลักฐานทั้งหลายทั้งมวลที่รวบรวมมาจะนำมาวิเคราะห์และตรวจสอบทั้งหมด ส่วนจะนำทั้ง 5 คนเข้าเครื่องจับเท็จหรือไม่นั้น ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อนแล้วค่อยพิจารณาอีกครั้ง
ยังไม่ออกหมายจับใครเพิ่ม
เมื่อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าบางคนมีความสัมพันธ์มีญาติเป็นตำรวจ พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า ไม่สามารถไปห้ามใครได้ว่าใครรู้จักกับใคร ขอยืนยันว่าคดีนี้ ผบ.ตร.ลงมาควบคุมกำกับด้วยตัวเอง ไม่ต้องเป็นห่วงว่าใครจะรู้จักกับใคร เราทำตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จะพยายามค้นหาคำตอบทุกเรื่องให้กับสังคม ส่วนเจ้าของอู่เรือจะเรียกมาดำเนินคดีหรือไม่ที่ให้บุคคลไม่มีใบอนุญาตขับเรือ ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานใครที่เกี่ยวข้องหรือทำผิดต้องดำเนินการทั้งหมด ยืนยันขณะนี้ตำรวจดำเนินคดี 2 คนใน 2 ข้อหา ส่วนจะแจ้งข้อหาหรือออกหมายจับใครเพิ่มต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบก่อน
สอบแล้ว 12 ปากทยอยสอบเพิ่ม
ด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า จะนำเรือลำที่เกิดเหตุไปจำลองอีกครั้งเพื่อดูทิศทางที่ปรากฏตามจีพีเอสและความเร็วแต่ละช่วงเวลา โดยเฉพาะทิศทางที่เรือวิ่ง การหันหัวเรือไปมา เพื่อดูว่าตรงกับจีพีเอสหรือไม่ รวมทั้งวัดเสียงเครื่องยนต์ด้วย เป็นการลงพื้นที่เฉพาะพนักงานสอบสวนและกองพิสูจน์หลักฐาน ไม่นำทั้ง 5 คนที่อยู่บนเรือไปด้วย ส่วนบาดแผลที่ขาของแตงโมจะมาจากถูกใบพัดเรือหรือไม่ต้องรอผลจาก พฐ.เป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง รวมถึงการตรวจสอบดีเอ็นเอจากคราบเลือด ใบพัดเรือ และตามส่วนต่างๆ ของเรือ ซึ่ง พฐ.เก็บหลักฐานไป 2 ครั้งแล้ว อีกทั้งยังคงต้องเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติม ตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ มีมากกว่า 12 คนที่ถูกสอบปากคำไปแล้ว
มั่นใจตำรวจปิดคดีได้แน่นอน
ผบช.ภ.1 กล่าวต่อไปว่า การชันสูตรศพเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับแม่ของแตงโมว่ายังมีจุดไหนที่ยังเคลือบแคลงใจหรือไม่ ส่วนการขอขมาเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ไม่มีผลต่อรูปคดี ยืนยันว่าทำไปตามหลักฐานที่ปรากฏจะทำให้เกิดความเป็นธรรมและความกระจ่าง รับรองว่าไม่มีอิทธิพลจากที่ไหนมาทำให้พนักงานสอบสวนขาดความยุติธรรม การเชิญผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการมาให้ความเห็นในคดีเนื่องจากตำรวจอยากรับฟังข้อมูลจากบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือและมีความเชี่ยวชาญ การตรวจสอบวันนี้จะนำไปเทียบเคียงกับคำให้การของผู้ที่อยู่บนเรือและพยานหลักฐานที่ตำรวจมีว่าตรงกันหรือไม่ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าสามารถปิดคดีนี้ได้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นคดีอุบัติเหตุตกเรือหรือเป็นคดีฆาตกรรม เพราะการตรวจสอบพยานหลักฐานจะทำให้พบว่าใครมีเหตุผลที่จะปองร้ายหรือไม่
ข้อมูลใหม่แตงโมไม่ได้ฉี่ท้ายเรือ
มีรายงานว่า ทีมสืบสวนได้เบาะแสใหม่ล่าสุดและมีความน่าเชื่อถือได้มากที่สุดว่า ได้ข้อมูลจากพยานปากสำคัญถึงเหตุการณ์บนเรือ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จทั้งหมดได้ลงเรือเพื่อไปถ่ายภาพชมวิว คนขับเรือคือปอ แต่ระหว่างทางก่อนถึงจุดเกิดเหตุ โรเบิร์ตมาขอปอลองขับเรือเพราะอยากจะซื้อเรือแบบนี้บ้าง ปอก็อนุญาตให้ขับ ก่อนที่ตัวเองจะเดินไปนั่งที่หัวเรือชมวิวกับกระติก ส่วนโรเบิร์ตเป็นคนขับเรือแทน มีจ๊อบนั่งอยู่ด้านข้าง ขณะที่แตงโมกับแซนยืนจิบไวน์กันอยู่ท้ายเรือ ลักษณะการยืนของทั้งคู่หันหน้าออกหัวเรือ แซนยืนอยู่ด้านซ้ายของเรือ ส่วนแตงโมยืนอยู่ด้านขวาของแซน ระหว่างที่โรเบิร์ตออกเรือ ด้วยความที่ไม่คุ้นกับเรือจึงออกตัวกระชากอย่างแรง จนเป็นเหตุให้แตงโมเสียหลักล้มหงายหลัง แตงโมคว้าแขนขวาของแซนได้เพื่อหาหลักยึดไม่ให้ตก แต่แซนตกใจสะบัดแขนเพราะกลัวจะตกเรือไปด้วยกัน จนเป็นเหตุให้แตงโมไม่มีหลักยึดและตกจากเรือลงไปในแม่น้ำในลักษณะขาทั้งสองข้างคร่อมเครื่องยนต์เรือ ไม่ได้ตกจากเรือขณะนั่งปัสสาวะท้ายเรือตามคำกล่าวอ้างของทั้ง 5 คน อย่างไรก็ตามข้อมูลใหม่นี้ตำรวจจะต้องเค้นสอบสวนและตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผลตรวจมือถือได้ข้อมูลเด็ด
มีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี บช.ภ.1 นำโทรศัพท์มือถือของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่อยู่บนเรือในวันเกิดเหตุ ทั้งกลุ่มเพื่อน 5 รายและโทรศัพท์ของแตงโม ส่งมอบให้ไปตรวจสอบข้อมูลภายใน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการติดต่อ หรือการสนทนาต่างๆ ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ เพื่อนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงไขปมปริศนาสาเหตุการเสียชีวิตของแตงโม เบื้องต้นผลการตรวจพิสูจน์เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย ข้อมูลในโทรศัพท์ทั้งหมดเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีพอสมควร บก.ปอท.ส่งข้อมูลไปให้คณะทำงานของ บช.ภ.1 แล้ว
เทียบความเร็วเรือนาทีต่อนาที
ต่อมาในช่วงเย็น พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 นำคณะเดินทางไปโรงจอดเรือ NBC บางศรีเมือง ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและช่างนำใบพัดเรือที่ถอดไปตรวจพิสูจน์กลับมาใส่คืนอย่างเดิม ก่อนจะนำเรือสปีดโบ๊ตลำเกิดเหตุลงแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อตรวจสอบเครื่องยนต์และความเร็วเรือขณะเกิดเหตุ พล.ต.ท.จิรพัฒน์กล่าวว่า จีพีเอสของเรือที่ถอดไปตรวจสอบได้ใส่กลับแล้วและนำช่างผู้ชำนาญการมาพิสูจน์เปรียบเทียบโดยขับเรือไปตามเส้นทางและความเร็วในการเดินทางตรงจุดที่คาดว่าแตงโมพลัดตกน้ำ แล้วมาเทียบความเร็วนาทีต่อนาทีรวมทั้งกระแสน้ำระดับความลึก เบื้องต้นพบว่าเรือรักษาความเร็วคงที่จะมาเปรียบสถานที่จริงว่าตรงกับคำให้การทั้ง 5 คนหรือไม่
เร่งตามเบิร์ตมาจำลองเหตุ
ผบช.ภ.1 กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่นายโรเบิร์ตยังไม่ได้มาจำลองเหตุการณ์ที่เกิดเหตุประกอบคำให้การ พนักงานสอบสวนกำลังติดตามอยู่ จะประสานให้มาเร็วที่สุด หากไม่มาด้วยเหตุผลอะไรจะบันทึกไว้ จนถึงขณะนี้เขาก็ยังไม่ได้ปฏิเสธ จากการตรวจสอบทั้งปอและโรเบิร์ตไม่มีใบอนุญาตขับเรือทั้งคู่ จะสอบถามข้อกฎหมายเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ทางเรือ ส่วนตามที่โซเชียลสงสัยเรื่องการโยนทุ่นลักษณะคล้ายดึงราก ตรงนี้ไม่ยากเพราะมีจีพีเอสระบุไว้หมดแล้ว โกหกกันไม่ได้
วุ่น สปีดโบ๊ตลงน้ำใบพัดหลุด
กระทั่งเวลา 18.30 น. ขณะเจ้าหน้าที่โรงจอดเรือ NBC นำสปีดโบ๊ตลำที่เกิดเหตุลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อนำออกไปจำลองเหตุการณ์ หลังจากนำเรือลงน้ำ ช่างสตาร์ตเครื่องยนต์เพื่อเช็กระบบเตรียมความพร้อมวอร์มเครื่อง ปรากฏว่าใบพัดเรือหลุดหายไป ต่อหน้าสื่อมวลชนที่รอทำข่าวจำนวนมากพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา ช่างประจำโรงจอดเรือกล่าวว่า คาดว่าสาเหตุเกิดจากขณะใส่ใบพัดเรือลืมขันบูตล็อกใบพัด ทำให้ตอนสตาร์ตเครื่องใบพัดกระเด็นหลุดจมหายไปในแม่น้ำ ตำรวจไม่ยกเลิกจำลองเหตุการณ์ให้ช่างนำใบพัดสำรองที่มีขนาดเดียวกันมาใส่ก่อน ส่วนใบพัดที่หลุดหายได้ประสานนักประดาน้ำมาลงค้นหาแล้ว ถือเป็นหลักฐานในคดีเนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของเรือลำที่เกิดเหตุ
“วิษณุ” ชี้ไม่ต้องถึงมือดีเอสไอ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคดีการเสียชีวิตของแตงโมสามารถนำเข้าพิจารณาเป็นคดีพิเศษหรือไม่ว่า ไม่ทราบ โดยทั่วไปไม่น่าเข้าหลักเกณฑ์ แต่มีอยู่ข้อหนึ่งคือคดีที่อยู่ในความสนใจ และเกรงว่าจะมีความสลับซับซ้อนก็อาจจะส่งเรื่องไปเข้าคณะกรรมการสั่งให้เข้าเป็นคดีพิเศษได้ แต่โดยทั่วไปโดยรูปการณ์ไม่มีอะไรซับซ้อนมาก ส่วนตัวคิดว่าขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนธรรมดาก็น่าจะพิจารณาได้ โดยใช้หลักคือการใช้ประจักษ์พยาน รวมทั้งพยานในส่วนของนิติวิทยาศาสตร์ พยานจากที่เกิดเหตุแวดล้อมในทางคดี แค่นี้ก็คิดว่าตำรวจคงจะสามารถดำเนินการได้ “มันเป็นเรื่องที่เราไม่รู้เท่านั้นเองว่าใครเห็นอะไรอย่างไร ไปสักระยะหนึ่งผมว่าก็คงจะคลี่คลายได้ ส่วนตัวได้ติดตามข่าวบ้างนิดหน่อย ส่วนจะมีการซ่อนเงื่อนอะไรหรือไม่ผมไม่ทราบ”
“ทักษิณ” แนะ ผบ.ตร.ทำจบเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 1 มี.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในนาม “พี่โทนี่” ร่วมเสวนาในรายการ CARE Talk x CARE Club House ตอน “ไทยแลนด์แสนวิกฤติ” ช่วงท้ายการสนทนา นายทักษิณกล่าวแสดงความเสียใจการจากไปของแตงโม-นิดาว่า “คุณแตงโม ถึงแม้ว่าจะขึ้นเวทีว่าตนว่าคุณปู (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ) ตอนหลังมาขอโทษที่เข้าใจผิดและฟังความข้างเดียว ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ ตอนก่อนปีใหม่ยังส่งไลน์มาขอโทษคนของโอ๊ค (นายพานทองแท้ ชินวัตร) ก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย เขาเข้าใจแล้วก็มีเหตุมีผล เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ดังมาก ผมเชื่อ ผบ.ตร.คนปัจจุบันเก่งเรื่องสืบสวนมาโดยตรง ขอให้ทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง เพื่อจะได้ยุติความเห็นว่าคนนู้นพูดนั้นนี้ที่กำลังสงสัยในการเสียชีวิตของแตงโม จะได้หยุดสงสัยและบ้านเมืองไปต่อได้ หาก ผบ.ตร.มาเล่นเอง น่าจะจบและชัดเจน”